สำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) เปิดเผยกรณีสะเทือนขวัญ เมื่อหนุ่มวัย 17 ปี ก่อเหตุสังหารพ่อแม่ตัวเอง โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการใหญ่เพื่อลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และโค่นล้มรัฐบาลสหรัฐฯ

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2568 เอฟบีไอเปิดเผยว่า นิกิตา คาแซป อายุ 17 ปี นักเรียนมัธยมปลาย ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมนางทาเทียนา คาแซป อายุ 35 ปี ผู้เป็นมารดา และนายโดนัลด์ เมเยอร์ อายุ 51 ปี ผู้เป็นพ่อเลี้ยง โดยทั้งคู่ถูกพบเป็นศพที่บ้านพักเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

จากหมายค้นที่ได้รับการเปิดผนึก พบว่าโทรศัพท์ของผู้ต้องสงสัยมีข้อมูลเชื่อมโยงกับกลุ่ม “ภาค 9 แฉก” (Order of Nine Angles) กลุ่มนีโอนาซี พร้อมข้อความชื่นชมอดีตผู้นำนาซีอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ นอกจากนี้ยังพบเอกสารเขียนด้วยมือที่มีเนื้อหาต่อต้านชาวยิว และรายละเอียดแผนการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนใหญ่เพื่อโค่นล้มรัฐบาลสหรัฐฯ

ศพของทั้งสองถูกพบเมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบหลังนายคาแซปขาดเรียนนานกว่า 2 สัปดาห์ โดยนายเมเยอร์เสียชีวิตจากกระสุนปืนที่ศีรษะ ส่วนนางคาแซปถูกยิงหลายนัด คาดเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์

ในวันเดียวกันที่พบศพ นายคาแซปซึ่งขับรถโฟล์กสวาเกน แอตลาส ของนายเมเยอร์ออกไปข้างนอก ถูกตำรวจในรัฐแคนซัสเรียกให้จอด ผลการตรวจค้นพบปืน .357 ของนายเมเยอร์ในรถ พร้อมอัญมณีล้ำค่าและเงินสด 14,000 ดอลลาร์ที่ซ่อนในคัมภีร์ไบเบิล

เอกสารที่พบยังระบุว่าผู้ต้องสงสัยเชื่อในแนวคิดคนผิวขาวสูงส่ง (white supremacist) และมองว่าการลอบสังหารทรัมป์จะเป็นจุดเริ่มต้นการปฏิวัติทางการเมือง เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าการฆ่าพ่อแม่เป็นการหาทุนและเป็นอิสระเพื่อดำเนินแผน โดยพบว่าเขาซื้อโดรนและวัตถุระเบิดเพื่อใช้โจมตี และมีแผนจะหลบหนีไปยูเครนหลังปฏิบัติการ

นายคาแซปขึ้นศาลเบื้องต้นแล้วเมื่อวันที่ 9 เมษายน โดยยังไม่ยอมรับความผิด และมีนัดขึ้นศาลรับทราบข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้