สกัดจับระทึก! พ่อ-ลูก ซิ่งขนไอซ์ 50 กก. คาจุดตรวจทางหลวง อ้างไม่รู้ถูกพ่อหลอก

นครศรีธรรมราช – ตำรวจทางหลวงและ บก.ป. สนธิกำลังตั้งจุดสกัด สกัดจับสองพ่อลูก ขณะซิ่งรถขนยาไอซ์ล็อตใหญ่กว่า 50 กิโลกรัม ได้คาจุดตรวจทางหลวง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พ่อสารภาพรับจ้างขนได้ค่าจ้าง 45,000 บาท/เที่ยว ทำมาแล้ว 2 ครั้ง เตรียมนำส่งภาคใต้สุด ขณะที่ลูกชายให้การภาคเสธ อ้างไม่รู้ว่าพ่อขนยา อ้างถูกพ่อหลอกให้มาขับรถนำ

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบก.ทล.) และ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) มอบหมายให้ พ.ต.ท.ปิยะพร เรียนสุทธิ์ สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (สว.ส.ทล.4 กก.7 บก.ทล.) และ พ.ต.ท.ธีระพงษ์ คงเขียว สารวัตรกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม (สว.กก.5 บก.ป.) นำกำลังตั้งจุดตรวจสกัดบริเวณจุดตรวจ ทล. 41 หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงทุ่งสง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช

เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากสายลับว่า มีเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ จะมีการลำเลียงยาไอซ์จำนวนมากจากพื้นที่ภาคเหนือลงไปจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ โดยใช้รถยนต์จำนวน 2 คันขับนำและตามกันมา เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังออกตั้งจุดสกัดบนถนนทางหลวงหมายเลข 41 ในตำบลนาโพธิ์ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเส้นทางขาล่องใต้

ต่อมา เจ้าหน้าที่พบรถยนต์ต้องสงสัยจำนวน 2 คัน ขับขี่มาบริเวณจุดตรวจ คือ รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น ซีอาร์วี สีเทา ทะเบียนกรุงเทพมหานคร และรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น แอคคอร์ด สีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งตรงตามที่ได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่จึงให้สัญญาณหยุดรถเพื่อขอทำการตรวจค้น

จากการตรวจสอบ พบชายสองคนอยู่ในรถทั้งสองคัน ทราบชื่อต่อมาคือ นายสาบรี อายุ 47 ปี และ นายฟิตตรี อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นพ่อลูกกัน ทั้งสองมีท่าทีพิรุธลุกลี้ลุกลน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นอย่างละเอียด พบยาไอซ์จำนวน 50 ห่อ น้ำหนักรวมประมาณ 50 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในถุงชา วางไว้ในรถทั้งสองคัน

สอบสวนเบื้องต้น นายสาบรี ผู้เป็นพ่อ ได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้รับจ้างขนยาไอซ์ โดยได้รับค่าจ้างในการขนแต่ละครั้งเป็นเงินจำนวน 45,000 บาท โดยไปรับยาเสพติดดังกล่าวมาจากพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และกำลังจะนำไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ซึ่งนายสาบรี สารภาพว่าเคยทำหน้าที่รับจ้างขนยาเสพติดในลักษณะนี้มาแล้วจำนวน 2 ครั้ง

ในส่วนของนายฟิตตรี ผู้เป็นลูกชาย ได้ให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าตนเองไม่ทราบมาก่อนว่าผู้เป็นพ่อรับจ้างขนยาเสพติด เพียงแต่ถูกนายสาบรี ชวนให้ขับรถยนต์ไปเป็นเพื่อนที่จังหวัดเชียงราย และขากลับได้ถูกผู้เป็นพ่อให้ทำหน้าที่ขับรถยนต์นำหน้า และบอกว่าหากพบด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้รีบโทรศัพท์แจ้งทันที ซึ่งนายฟิตตรี อ้างว่าเข้าใจเพียงว่าผู้เป็นพ่ออาจจะกลัวการตรวจปัสสาวะเนื่องจากอาจมีพฤติกรรมเสพยา จึงไม่คิดว่าจะเป็นการขนยาเสพติดล็อตใหญ่เช่นนี้

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายสาบรี และนายฟิตตรี ในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) ไว้ในความครอบครองอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” นอกจากนี้ ยังได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่นายสาบรี ในข้อหา “ขับรถในขณะเมาเมทแอมเฟตามีน” ก่อนจะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน พร้อมด้วยของกลางทั้งหมด ส่งให้พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

มีรายงานเพิ่มเติมว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการพิเศษที่มีชื่อว่า “Fast74 เร็ว แรง ลับ ลวง พลาง” ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มนี้มีการทำงานเป็นกระบวนการที่มีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน ทั้งการใช้รถนำเพื่อเคลียร์เส้นทาง การใช้รถที่มีสมรรถนะสูง และขับขี่ด้วยความเร็วสูงเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม โดยบางช่วงผู้ต้องหาใช้ความเร็วถึง 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องวางแผนการจับกุมอย่างรัดกุม มีการใช้แผนการล่อลวงให้ผู้ต้องหาตายใจ ก่อนจะใช้กลยุทธ์เฉพาะตัวของตำรวจทางหลวงในการไล่ติดตามและสกัดจับไว้ได้ในที่สุด ถือเป็นการทลายเครือข่ายยาเสพติดสำคัญที่พยายามลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *