กรุงเทพมหานคร – เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านตึกแถวกลางดึกย่านสะแกงาม เขตบางขุนเทียน เพลิงโหมรุนแรงจากสายไฟฟ้าลุกลามเข้าตัวบ้านอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นลูกสะใภ้เจ้าของบ้าน ถูกไฟคลอกเสียชีวิตคาห้องนอน ส่วนสมาชิกในบ้านอีก 4 ชีวิตหนีตายออกมาได้อย่างหวุดหวิด แต่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมฉีดน้ำสกัดนานเกือบชั่วโมง ก่อนควบคุมเพลิงไว้ได้ เร่งประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง

เมื่อเวลา 02.30 น. ของวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ร.ต.ท.รัฐธิปก แก่นพิทักษ์ รองสารวัตร(สอบสวน) สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในซอยสะแกงาม 3 ถนนสะแกงาม แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานงานไปยังสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน

ที่เกิดเหตุลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ หรือตึกแถวสูง 4 ชั้น ซึ่งชั้นล่างเปิดเป็นร้านค้าขายเสื้อยืดและกางเกงชั้นใน พบกลุ่มควันและแสงเพลิงจำนวนมากกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงบริเวณชั้นที่ 1 และลุกลามขึ้นไปชั้นที่ 2 อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากหลายสถานีได้เร่งกางสายยางฉีดน้ำเพื่อระงับเปลวเพลิงที่กำลังโหมหนัก การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากเพลิงไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดและสงบลงได้ในที่สุด แต่ตัวอาคารและทรัพย์สินภายในได้รับความเสียหายทั้งหมด

จากการสอบสวนและตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่า ขณะเกิดเหตุมีผู้พักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังนี้รวม 5 คน โดย 4 คนแรกสามารถหนีออกมาจากกองเพลิงได้อย่างปลอดภัย มีเพียง 1 รายที่เป็นผู้สูงอายุ ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณมือทั้ง 2 ข้าง จากการพยายามหนีออกจากตัวบ้านที่กำลังถูกเพลิงไหม้ ส่วนผู้พักอาศัยอีก 1 ราย ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ายังคงติดค้างอยู่ภายในอาคาร จึงได้จัดชุดค้นหาเข้าตรวจสอบภายในซากอาคารที่ถูกเพลิงไหม้

ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดค้นหาได้พบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย อยู่ภายในห้องนอนบริเวณชั้น 2 ของตึกแถว สภาพศพถูกไฟคลอก ทราบชื่อต่อมาคือ นางด้วง (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี สัญชาติลาว ซึ่งเป็นลูกสะใภ้ของเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการบันทึกรวบรวมพยานหลักฐานและสภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นข้อมูลในการสอบสวนต่อไป

สอบถาม น.ส.ฉันทนีย์ (สงวนนามสกุล) เจ้าของบ้านและแม่สามีของผู้เสียชีวิต ให้การด้วยความโศกเศร้าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนเองเห็นประกายไฟและเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงจากบริเวณสายไฟฟ้าที่อยู่ด้านหน้าบ้าน ก่อนที่เปลวเพลิงจะลุกลามเข้ามาภายในตัวบ้านอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น ทำให้แทบตั้งตัวไม่ทัน ขณะนั้นมีผู้พักอาศัยอยู่รวม 5 คน

น.ส.ฉันทนีย์ กล่าวต่อไปว่า ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นน้องสะใภ้ของตน ไม่สามารถหนีออกมาจากบ้านได้ทัน ส่วนตนเองกับแม่ และหลานชายอีก 2 คน อายุ 3 ขวบ และ 12 ปี สามารถหนีรอดออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่แม่ของตนเองได้รับบาดเจ็บที่มือทั้งสองข้างจากการหนีไฟ

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง และจะประสานงานไปยังกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เพื่อเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และวิเคราะห์ถึงสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้อย่างเป็นทางการ ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนร่างของผู้เสียชีวิต ได้นำส่งชันสูตรศพที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจน ก่อนจะติดต่อญาติเพื่อรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป