จากกรณีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบริเวณจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์ในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อชายวัย 69 ปี ขับรถกระบะฝ่าเครื่องกั้นทางรถไฟ และถูกรถไฟสินค้าพุ่งชนเข้าอย่างจัง จนเกิดความเสียหายทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลและหัวรถจักรของรถไฟ เหตุการณ์นี้ได้ตอกย้ำถึงอันตรายและความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรบริเวณทางข้ามรถไฟ

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่น่าสนใจ ซึ่งมี นายสุรเสียง พลับพลาสวรรค์ พนักงานขับรถไฟ ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายและความรับผิดชอบ หากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้น

นายสุรเสียง อธิบายว่า จากเหตุการณ์ชนที่เกิดขึ้นใน จ.ชลบุรี พบว่าหัวรถจักรของรถไฟได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทั้งในส่วนของตะแกรงด้านหน้าที่บิดงอ และที่สำคัญคือส่วนของ “โครงประธาน” ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักที่มีความแข็งแรงและมีราคาสูงมาก ก็เกิดการบิดงอเช่นกัน โดยประเมินความเสียหายในกรณีนี้ว่า มีมูลค่าเกินกว่าหลักล้านบาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนโครงประธานนั้นสูงมาก

นอกจากความเสียหายต่อหัวรถจักรแล้ว ความเสียหายยังอาจลุกลามไปถึงส่วนประกอบอื่น ๆ ของทางรถไฟด้วย โดยเฉพาะหากเหตุการณ์ชนนั้นรุนแรงจนทำให้รถไฟตกราง ความเสียหายก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ส่วนประกอบของทางรถไฟ เช่น ไม้หมอน หรือหมอนคอนกรีต ที่เกิดการแตกหักเสียหายจากอุบัติเหตุ ผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืนกฎและเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด ซึ่งหากผู้ขับขี่เสียชีวิต ญาติพี่น้องก็จะต้องรับผิดชอบแทน

นายสุรเสียง กล่าวย้ำเตือนว่า การตัดสินใจเพียงเสี้ยววินาทีที่จะขับรถตัดหน้าหรือฝ่าเครื่องกั้นและสัญญาณเตือนบริเวณทางข้ามรถไฟนั้น สามารถนำมาซึ่งความเสียหายที่ประเมินค่ามิได้ ทั้งในเชิงทรัพย์สินและชีวิต

และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ หากอุบัติเหตุจากการฝ่าฝืนกฎบริเวณจุดตัดทางรถไฟนั้น ทำให้รถไฟตกรางและมีผู้โดยสารเสียชีวิต เหตุการณ์ดังกล่าวจะกลายเป็น คดีอาญา ซึ่งมีบทลงโทษที่รุนแรงตามกฎหมาย ไม่ใช่เพียงแค่การชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งเท่านั้น

ดังนั้น บทเรียนจากเหตุการณ์นี้และข้อมูลที่พนักงานขับรถไฟได้ให้ไว้ เป็นเครื่องเตือนใจให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อขับขี่เข้าใกล้บริเวณทางข้ามรถไฟ ต้องหยุดรอสัญญาณและเครื่องกั้นเสมอ ไม่ควรประมาทคิดว่ามีเวลาพอที่จะขับผ่านไปได้ เพราะเพียงความผิดพลาดเล็กน้อย อาจนำมาซึ่งความสูญเสียครั้งใหญ่หลวง ทั้งต่อตนเอง ทรัพย์สิน และชีวิตของผู้อื่น รวมถึงต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายมหาศาลและความรับผิดชอบทางกฎหมายที่ตามมา