เปิดตำนานพระเครื่องดัง! ‘พระปิดตาพุงป่อง’ หลวงปู่ศุข เหรียญยอดนิยม ‘ครูบาวัง-หลวงพ่อทอง’

ในแวดวงพุทธศาสนาและนักสะสมวัตถุมงคล ชื่อของพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงพุทธาคมมักถูกกล่าวขานถึงอยู่เสมอ ไม่เพียงแค่คำสอนอันเป็นมงคล แต่ยังรวมถึงวัตถุมงคลที่ท่านได้เมตตาจัดสร้างขึ้น ซึ่งกลายเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาและเป็นที่ต้องการของนักสะสม

หนึ่งในสารธรรมอันล้ำค่า คือคำสอนจาก หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี ที่ท่านได้เมตตาชี้แนะถึงการปฏิบัติ โดยกล่าวว่า “ภาวนา คือการคิดให้มันถูกต้อง คิดให้มันดีงาม” ซึ่งเป็นหลักการง่ายๆ แต่ลึกซึ้งในการฝึกจิต

สุดยอดวัตถุมงคลจากเกจิอาจารย์ในตำนาน

นอกจากคำสอนแล้ว วัตถุมงคลจากครูบาอาจารย์หลายท่านยังคงเป็นที่กล่าวขวัญถึงพุทธคุณและค่านิยม หนึ่งในนั้นคือ “พระครูวิมลคุณากร” หรือ “หลวงปู่ศุข เกสโร” วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท พระเกจิผู้เปี่ยมด้วยพุทธาคมแก่กล้า

วัตถุมงคลยอดนิยมชิ้นหนึ่งของท่านคือ “พระปิดตาพุงป่อง” ซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในราวปี พ.ศ.2460-2463 เพื่อเป็นที่ระลึกงานฌาปนกิจมารดาของท่านในปี พ.ศ.2463 พระปิดตาพุงป่องนี้เท่าที่พบส่วนใหญ่จะเป็น เนื้อผงคลุกรัก

ตามคำบอกเล่าที่สืบทอดกันมา การจัดสร้างพระปิดตาพุงป่องใช้วัตถุอาถรรพ์และส่วนผสมมงคลหลายอย่าง เช่น ผงพุทธคุณ, เกสรดอกไม้ร้อยแปด, ผงวิเศษจากการเขียนอักขระเลขยันต์ต่างๆ, ดินโป่งต่างๆ ที่พลีเอามาจากดงดิบ และวัสดุอาถรรพ์อีกมากมาย นำมาคลุกเคล้าโดยใช้น้ำรักเป็นตัวประสาน ทำให้การบดส่วนผสมต่างๆ ไม่ค่อยละเอียดนัก สีขององค์พระจึงมักออกเป็นสีน้ำตาลไหม้จนถึงดำ แต่ถ้าผ่านการใช้หรือสัมผัสผิวจะเนียนขึ้น

ลักษณะของพระปิดตาพุงป่อง มีขนาดกะทัดรัด กว้างและสูงประมาณ 1.6 เซนติเมตร สันนิษฐานว่าการแกะพิมพ์เป็นฝีมือช่างท้องถิ่น จึงอาจไม่มีความประณีตคมชัดเทียบเท่าช่างหลวง องค์พระแสดงปางขัดสมาธิราบ ยกพระหัตถ์ทั้งคู่ปิดพระพักตร์เพียงตำแหน่งเดียว จุดสังเกตคือ พระเศียรเห็นเป็นเส้นนูน, พระพาหามีกล้ามเนื้อช่วงบน, พระชานุ (หัวเข่า) เป็นปมใหญ่แล้วขมวดเรียวเล็กลง, และที่มาของชื่อคือ พระอุทร (ท้อง) ที่นูนใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีเส้นกรอบวาดเว้าตามสัดส่วนโดยรอบ ส่วนด้านหลังองค์พระจะเป็นรอยกดพิมพ์

เหรียญยอดนิยมจาก ครูบาวัง และ หลวงพ่อทอง

อีกหนึ่งพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาอย่างกว้างขวางคือ “ครูบาวัง พรหมเสโณ” วัดบ้านเด่น อำเภอเมือง จังหวัดตาก ท่านได้จัดสร้างวัตถุมงคลหลายชนิด แต่ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงคือ “เหรียญครูบาวังรุ่นแรก” ซึ่งสร้างขึ้นในปีพ.ศ.2506 ลักษณะเป็นเหรียญทรงกลมไม่มีหู มีด้วยกัน 4 เนื้อ คือ เนื้อผิวเปียกทอง, กะไหล่ทอง, กะไหล่เงิน และทองแดงผิวไฟ

ลักษณะของเหรียญรุ่นแรกครูบาวัง ด้านหน้ามีขอบเป็นจุดไข่ปลาล้อมรอบ ตรงกลางเป็นรูปเหมือนครึ่งองค์ของครูบาวัง หันหน้าตรง พร้อมอักขระล้านนา (ตั๋วเมือง) ส่วนด้านหลังมีข้อความเขียนเป็นชื่อ “หลวงพ่อครูบาวัง ครั้งที่ ๑ พ.ศ.๒๕๐๖ วัดบ้านเด่น จังหวัดตาก” จัดเป็นอีกเหรียญที่เป็นที่ต้องการของนักสะสม

สุดท้ายคือ “หลวงพ่อทอง” วัดเขาตะเครา ตำบลบางครก อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งท่านได้เมตตาจัดสร้างวัตถุมงคลมากมายหลายประเภท ล้วนเป็นที่นิยม โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นที่สร้างในปี พ.ศ.2465”

เหรียญรุ่นปี พ.ศ.2465 นี้ เป็น “เหรียญหล่อสี่เหลี่ยมปรกโพธิ์” สร้างออกมาในสมัยที่พระอธิการห้อย ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสในปี พ.ศ.2465 สร้างเป็น เนื้อทองเหลือง มีหูเชื่อม ยกขอบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

ลักษณะของเหรียญหล่อสี่เหลี่ยมปรกโพธิ์ หลวงพ่อทอง ปี 2465 ด้านหน้าจำลององค์หลวงพ่อทอง ประทับนั่งในปางมารวิชัย เหนืออาสนะบัวสองชั้น โดยมีพื้นฐานเขียงรองรับอีกชั้นหนึ่ง ด้านหลังมีอักขระขอม 3 บรรทัด อ่านว่า “อิ สวา สุ มิ โน เชย ยะ” ปัจจุบัน เหรียญหล่อสี่เหลี่ยมปรกโพธิ์ รุ่นนี้ จัดเป็นเหรียญที่หายาก และมีสนนราคาสูงในตลาดพระเครื่อง

วัตถุมงคลเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่ยังสะท้อนถึงความศรัทธาอันแรงกล้าต่อครูบาอาจารย์ และคุณค่าทางประวัติศาสตร์ในวงการพระเครื่องไทย

โดย อริยะ เผดียงธรรม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *