ลพบุรี – แม่และป้าของ “น้องธันวา” เด็กชายวัย 15 ปี ที่พบศพจมน้ำเสียชีวิตบริเวณเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ยังคงติดใจสาเหตุการตาย ไม่เชื่อว่าเป็นการจมน้ำปกติ สงสัยกลุ่มเพื่อน 3 คนที่ไปด้วย ทำไมไม่ช่วยเหลือ แถมยังนำมือถือและเสื้อผ้าของผู้ตายไปทิ้งถ่วงน้ำในจุดเกิดเหตุ กล้องวงจรปิดเผยภาพเด็กเดินกลับมาเพียง 3 คน สร้างความสงสัย ขณะที่ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งคลี่คลายคดีเพื่อคลายปมปริศนาการเสียชีวิต

จากกรณีที่มีผู้พบศพชายนิรนามลอยอยู่บริเวณแม่น้ำป่าสัก ด้านหน้าประตูระบายน้ำบานที่ 7 ของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ต่อมาญาติได้เข้ามาตรวจสอบและยืนยันว่าเป็นศพของ นายวราเมธ หรือน้องธันวา อายุ 15 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการ

เบื้องต้น แพทย์โรงพยาบาลพัฒนานิคมได้ลงความเห็นว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากการขาดอากาศหายใจ ซึ่งญาติได้รับศพไปบำเพ็ญกุศลและประกอบพิธีทางศาสนาเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวโดยเฉพาะนางสาวกนกวรรณ บุญมี อายุ 41 ปี ผู้เป็นแม่ และนางสนม บุญมี ผู้เป็นป้า ยังคงติดใจและสงสัยอย่างยิ่งถึงสาเหตุการเสียชีวิตของน้องธันวา จึงได้ขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิทวงความยุติธรรมให้กับสังคม เพื่อเข้ามาให้คำปรึกษาและร่วมเดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี

นางสาวกนกวรรณ และนางสนม เล่าว่า น้องธันวาได้มาพักอยู่กับป้าที่บ้านในตำบลดีลัง อำเภอพัฒนานิคม ก่อนเกิดเหตุในวันที่ 16 เมษายน น้องธันวาได้ขออนุญาตจะไปเล่นน้ำสงกรานต์ในตัวอำเภอพัฒนานิคม โดยมีเพื่อนมารับที่บ้าน หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อน้องได้อีกเลย กระทั่งมาทราบข่าวว่าพบศพและได้ไปยืนยันว่าเป็นน้องธันวาจริง

สิ่งที่สร้างความสงสัยให้กับทางญาติคือ หากเป็นการจมน้ำจริง ทำไมเพื่อนทั้ง 3 คนที่ไปด้วยถึงไม่ให้ความช่วยเหลือ ทั้งๆ ที่จุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับที่ทำการของชลประทาน นอกจากนี้ เพื่อนทั้ง 3 คนยังนำโทรศัพท์มือถือและเสื้อผ้าของน้องธันวาไปทิ้งไว้ในน้ำโดยใช้หินถ่วง และที่สำคัญคือไม่ได้ไปแจ้งข่าวหรือบอกกล่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแม่หรือป้าของน้องธันวาแต่อย่างใด ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ทำให้ทางญาติไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นการจมน้ำเสียชีวิตโดยธรรมชาติ

ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรพัฒนานิคม ได้เปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดของสำนักงานเขื่อนป่าสักฯ ซึ่งบันทึกพฤติกรรมของกลุ่มเด็กทั้ง 4 คนไว้ได้ โดยเห็นภาพเด็กทั้ง 4 คนเดินลงไปเล่นน้ำ แต่หลังจากนั้นไม่นานกลับเห็นเพียงเด็ก 3 คนเดินกลับขึ้นมา และต่อมายังเห็นหนึ่งในเด็ก 3 คน เดินกลับลงไปยังจุดเกิดเหตุอีกครั้งและโยนบางอย่างลงไปในน้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าสิ่งของที่ถูกโยนลงไปคือ โทรศัพท์มือถือและเสื้อผ้าของน้องธันวา ที่ถูกมัดด้วยหินถ่วงไว้ ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดนี้ยิ่งเพิ่มความสงสัยให้กับทางญาติเป็นอย่างมาก

จากการสอบสวนปากคำเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจกับหนึ่งในกลุ่มเพื่อนที่ไปด้วยกัน เด็กให้การว่า น้องธันวาได้เดินลงไปในน้ำเพียงคนเดียวในจุดเกิดเหตุ และเกิดจมน้ำไป ตนไม่รู้จะทำอย่างไร จึงเดินกลับขึ้นมาและปรึกษากับเพื่อนๆ ก่อนจะตัดสินใจนำโทรศัพท์และเสื้อผ้าของน้องธันวาใส่หินถ่วงทิ้งลงไปในน้ำ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการงมหาและพบโทรศัพท์พร้อมเสื้อผ้าจริงตามคำให้การ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ปักใจเชื่อทั้งหมด และอยู่ระหว่างดำเนินการสอบปากคำเด็กที่เหลืออีก 2 คน รวมถึงรวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดในคดี และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายต่อไป ท่ามกลางความหวังของครอบครัวน้องธันวาที่ต้องการทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับการเสียชีวิตของลูกชายและหลานชายอันเป็นที่รัก.