ครอบครัวสุดห่วง “เจ๊แก้ว” เจ้าของแผงทุเรียน สุราษฎร์ฯ หายตัวปริศนา มีทองกว่า 20 บาท เงินสดหลักแสน หวั่นถูกฆ่าชิงทรัพย์

สุราษฎร์ธานี – วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี น.ส.สุจิตรา กุลจันทร์ หรือที่รู้จักกันในนาม “เจ๊แก้ว” อายุ 43 ปี เจ้าของแผงทุเรียนรายใหญ่ในตลาดโพธิ์หวาย ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ได้หายตัวไปอย่างปริศนา สร้างความร้อนใจให้กับครอบครัวและญาติมิตรเป็นอย่างมาก

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หลังจากเจ๊แก้วเสร็จสิ้นภารกิจที่แผงทุเรียน และกำลังเตรียมตัวขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านพัก ซึ่งอยู่ห่างจากตลาดเพียงประมาณ 2 กิโลเมตร แต่เธอกลับไม่เดินทางถึงบ้านตามปกติ

ญาตินาย น.ส.สุจิตรา หรือเจ๊แก้ว ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ในวันที่ 19 พฤษภาคม เพื่อแจ้งความขอความช่วยเหลือและติดตามการหายตัวไปของเจ๊แก้ว โดยให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม เวลาประมาณ 19.40 น. เป็นช่วงเวลาที่เจ๊แก้วออกจากแผงทุเรียนเพื่อกลับบ้าน หลังจากนั้นญาติพยายามโทรศัพท์ติดต่อแต่ไม่สามารถติดต่อได้

น้องสาวของเจ๊แก้ว เปิดเผยด้วยความกังวลว่า ในวันที่พี่สาวหายตัวไป เธอได้โทรศัพท์พูดคุยกับพี่สาวและทราบว่าพี่สาวกำลังจะกลับบ้าน หลังจากนั้นเมื่อเห็นว่าผิดปกติที่พี่สาวยังไม่ถึงบ้าน จึงได้พยายามโทรศัพท์ติดต่ออย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่มีผู้รับสาย

ข้อมูลจากครอบครัวระบุว่า เจ๊แก้วมักจะพกพาโทรศัพท์มือถือติดตัวไว้ถึง 2 เครื่อง ญาติๆ ได้พยายามติดต่อโทรศัพท์ทั้งสองเครื่องอย่างไม่ขาดสาย จนกระทั่งในช่วงเวลา 12.00 น. ของวันที่ 18 พฤษภาคม โทรศัพท์เครื่องหนึ่งของเจ๊แก้วได้ปิดเครื่องไป แต่อีกเครื่องยังคงดัง แต่ก็ไม่มีใครรับสาย

สิ่งที่ทำให้ครอบครัวยิ่งเป็นกังวลคือ ในวันที่หายตัวไป เจ๊แก้วได้สวมใส่และพกพาทรัพย์สินมีค่าติดตัวจำนวนมาก ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท, เลทข้อมือทองคำน้ำหนัก 10 บาท และแหวนทองน้ำหนัก 5 บาท รวมน้ำหนักทองคำกว่า 20 บาท นอกจากนี้ยังมีเงินสดที่ได้จากการขายทุเรียนในวันนั้นอีกจำนวนไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท ซึ่งทรัพย์สินจำนวนมหาศาลนี้ ทำให้ญาติๆ เกิดความหวั่นวิตกอย่างยิ่งว่า เจ๊แก้วอาจตกเป็นเหยื่อของการก่อเหตุอาชญากรรม โดยเฉพาะการฆ่าชิงทรัพย์

ทางครอบครัวยืนยันว่า ที่ผ่านมาเจ๊แก้วไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งหรือเรื่องบาดหมางกับผู้ใด ที่จะถึงขั้นทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้ จึงได้แต่ภาวนาและร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการติดตามหาตัวอย่างเต็มที่

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ภายหลังรับแจ้งความ ได้ระดมกำลังชุดสืบสวนลงพื้นที่ทันที เพื่อทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเส้นทางและบริเวณโดยรอบ ตั้งแต่จุดที่เจ๊แก้วออกจากแผงทุเรียนไปจนถึงบริเวณใกล้เคียงบ้านพัก รวมถึงเส้นทางอื่นๆ ที่อาจเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบเบาะแสที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางการหายตัวไปของเจ๊แก้ว

พร้อมกันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานงานกับหน่วยงานกู้ภัยกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี เพื่อเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์สำหรับการค้นหาในพื้นที่ที่อาจต้องสงสัย หรือพื้นที่ที่มีลักษณะภูมิประเทศที่ยากต่อการเข้าถึง เพื่อหวังว่าจะพบตัวเจ๊แก้วโดยเร็วที่สุด

ครอบครัวและเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงไม่ละความพยายามในการตามหา น.ส.สุจิตรา กุลจันทร์ หรือ เจ๊แก้ว และหวังว่าจะได้รับข่าวดีในเร็ววันสำหรับเหตุการณ์การหายตัวไปอย่างเป็นปริศนาในครั้งนี้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *