เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์และสร้างความตกใจในโลกออนไลน์อย่างมาก เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เปิดโปงพฤติการณ์ที่อ้างว่าเป็น ‘กลโกง’ ของแฟรนไชส์ขนส่งสินค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งมี ‘ทุนจีน’ เป็นเจ้าของ โดยใช้วิธีการทำพัสดุปลอม ส่งให้ลูกค้าแบบเก็บเงินปลายทาง (COD) โดยบรรจุสิ่งของที่ไร้ค่าหรือเป็นขยะอยู่ข้างใน

เรื่องราวนี้ถูกโพสต์โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Wannee Pomnoi" เมื่อวันที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา (ตามที่ปรากฏในโพสต์) โดยเจ้าของโพสต์ซึ่งระบุว่าเกี่ยวข้องกับแฟรนไชส์ดังกล่าว ได้กล่าวอ้างว่า แฟรนไชส์นี้มีการทำพัสดุปลอมขึ้นมาจำนวนมาก ทั้ง ถุงเท้า, สายชาร์จ, กระเป๋า หรือแม้กระทั่งเสื้อในเก่าๆ นำมาบรรจุซองพัสดุ แล้วปะปนไปกับพัสดุจริงที่ต้องจัดส่ง

วิธีการคือ พัสดุปลอมเหล่านี้จะถูกส่งไปยังลูกค้าในรูปแบบการเก็บเงินปลายทาง หรือ COD โดยอ้างว่า แฟรนไชส์แห่งนี้มีการนำข้อมูลลูกค้าเก่าที่เคยใช้บริการอยู่ในระบบ มาดึงออกมาใช้สร้างเลขพัสดุใหม่เพื่อส่งของปลอมเหล่านี้ไปให้ ซึ่งลูกค้าบางรายอาจไม่รู้ตัวและหลงรับพัสดุไป

ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ ข้อความในโพสต์อ้างว่า ผู้บริหารของแฟรนไชส์ ซึ่งรวมถึงผู้จัดการสาขาและฝ่ายบุคคล (HR) ทราบเรื่องกลโกงนี้เป็นอย่างดี และมีการข่มขู่พนักงานผู้ส่งสินค้าอย่างหนัก โดยระบุว่า หากใครบอกความจริงกับลูกค้าว่าพัสดุเป็นของปลอม จะถูกหักเงิน 5,000 บาท หรือถึงขั้นไล่ออก แต่ผู้โพสต์ยืนยันว่า ตนได้แจ้งเตือนลูกค้าทุกคนที่ไปส่งว่าพัสดุนี้เป็นของปลอมและไม่ควรรับ

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเกี่ยวกับการจัดการพัสดุตีกลับ โดยผู้โพสต์อ้างว่า ลูกค้าที่ส่งของตีกลับไม่เคยได้รับของคืนจริงตามที่ควรจะเป็น เพราะพนักงานของแฟรนไชส์จะทำการแกะพัสดุที่ถูกตีกลับ เพื่อนำเอาสินค้าที่อยู่ข้างในออกไปขายต่อ เช่น ที่ตลาดนัดแห่งหนึ่ง ส่วนของที่ต้องคืนลูกค้าก็อาจมีการสับเปลี่ยนเอาของข้างในออกไป

ผู้โพสต์ยังได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นถึงพัสดุที่ลูกค้าตีกลับ ซึ่งเมื่อแกะดูข้างใน พบว่ามีสิ่งของที่ไร้ประโยชน์จริงตามที่กล่าวอ้าง เช่น ส้มที่ถูกแกะแล้ว, หรือสิ่งของเก่าๆ ที่ไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งสอดคล้องกับคำกล่าวที่ว่ามีการส่งขยะหรือของเก่าให้ลูกค้า

ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ลูกค้าที่ตกเป็นเหยื่อประสบปัญหาในการร้องเรียน เนื่องจากผู้โพสต์ระบุว่า คอลเซ็นเตอร์ของแฟรนไชส์แห่งนี้ให้ความช่วยเหลือได้ไม่เต็มที่ และข้อมูลการติดต่อสาขาก็ไม่มีให้ ทำให้ลูกค้าไม่รู้จะไปติดต่อใครเพื่อเรียกร้องความเสียหาย

การเปิดโปงครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในธุรกิจขนส่งและการซื้อขายออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหลอกลวงผู้บริโภคผ่านช่องทางเก็บเงินปลายทาง ซึ่งสร้างความเสียหายและความไม่ไว้วางใจให้กับผู้บริโภคเป็นอย่างมาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวโดยเร่งด่วน เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคและรักษามาตรฐานในธุรกิจขนส่งสินค้า

ทั้งนี้ ข้อความและข้อมูลทั้งหมดมาจากโพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Wannee Pomnoi" ซึ่งเป็นการกล่าวอ้าง และยังต้องรอการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่รับผิดชอบและผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

ขอบคุณข้อมูล : เฟซบุ๊ก Wannee Pomnoi