ยังคุมไม่ได้! ไฟไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ย่านฉลองกรุง เสี่ยงอาคารถล่ม กทม.ตั้งศูนย์บัญชาการ ประชาชนรอบข้างหนีควัน
กรุงเทพมหานคร, 11 พฤษภาคม 2568 – เหตุเพลิงไหม้รุนแรงที่โรงงานเฟอร์นิเจอร์ บริษัท สยามเฮ้าส์ แอนด์ โฮม จำกัด หรือโรงงานเฟอร์นิเจอร์ KING ตั้งอยู่บนถนนฉลองกรุง ซอยฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง ยังคงไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะบริเวณชั้นใต้ดินซึ่งคาดว่าเป็นต้นเพลิง เจ้าหน้าที่กังวลถึงความเสี่ยงที่โครงสร้างอาคารอาจถล่มลงมาได้ เนื่องจากความร้อนสะสมเป็นเวลานาน
รายงานล่าสุดระบุว่า โรงงานที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 2 ชั้น แนวราบ มีการยกพื้นสูงและทำห้องใต้ดินไว้สำหรับเก็บสินค้า วัสดุ และอุปกรณ์ในการผลิต ซึ่งมีจำนวนมากและเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เช่น ไม้อัด พาเลทวางสินค้า และเมล็ดพลาสติก ทำให้การดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูพยายามเข้าถึงบริเวณชั้นใต้ดินที่เป็นจุดต้นเพลิง แต่ไม่สามารถดำเนินการได้โดยตรง เนื่องจากมีกลุ่มควันหนาแน่นและความร้อนสูง จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษและเครื่องช่วยหายใจในการปฏิบัติงาน
ด้านการบริหารจัดการเหตุการณ์ กรุงเทพมหานคร โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร และนายธราพงษ์ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตลาดกระบัง ลงพื้นที่เพื่อประสานงานอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ขึ้นที่โรงเรียนลำพะอง ซึ่งอยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ เพื่อบูรณาการการทำงานและรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน
นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา กล่าวถึงสถานการณ์ล่าสุดว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของเพลิงไหม้ แต่ปริมาณควันมีจำนวนมาก ต้องใช้โฟมผสมน้ำในการควบคุมเพลิงในบางส่วน เบื้องต้นยังไม่พบผู้ที่ติดค้างอยู่ภายในอาคาร หรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เนื่องจากตรงกับวันหยุดงานพอดี
นายสุรจิตต์เสริมว่า วัสดุภายในโรงงานเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกลามได้ง่าย และการดับเพลิงในชั้นใต้ดินเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากความร้อนและควันที่อัดแน่นอยู่ด้านล่าง กทม. ได้สนับสนุนเครื่องผลักดันและอัดอากาศ รวมถึงยานยนต์ดับเพลิงระบบควบคุมระยะไกล LUF 60 เข้ามาช่วยสนับสนุนการดับเพลิง นอกจากนี้ กลุ่มฝนที่ตกลงมายังช่วยบรรเทาและระบายกลุ่มควันได้ในระดับหนึ่ง
ความเสียหายเบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินค่าได้ การประเมินมูลค่าทรัพย์สินและความเสียหาย รวมถึงการหาสาเหตุของการเกิดเหตุ จะดำเนินการหลังจากที่เพลิงสงบลง โดยศูนย์บัญชาการเหตุการณ์เขตลาดกระบังจะร่วมกับสถานีตำรวจนครบาลฉลองกรุงเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวน
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งระดมกำลังควบคุมเพลิง คาดว่าจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าจะสามารถควบคุมเพลิงได้ทั้งหมด โดยเฉพาะการดับไฟในชั้นใต้ดินที่มีความซับซ้อนและอันตรายสูง ความกังวลหลักในขณะนี้คือความเสี่ยงที่โครงสร้างอาคารซึ่งได้รับความเสียหายจากความร้อนเป็นเวลานานอาจถล่มลงมา
ผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ยังขยายวงกว้างไปยังประชาชนที่พักอาศัยในหมู่บ้านบริเวณโดยรอบหลายแห่ง ซึ่งได้รับผลกระทบจากกลุ่มควันมหาศาลที่เกิดจากการเผาไหม้ของวัสดุต่างๆ ภายในโรงงาน ประชาชนบางส่วนต้องอพยพออกมาจากที่พักอาศัยชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย