ชลบุรี – เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นในนิคมอุตสาหกรรมพื้นที่อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ (16 พ.ค. 2568) โดยผนังอาคารส่วนต่อเติมชั้น 2 ของโรงงานผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แห่งหนึ่ง ได้ถล่มลงมา สร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ที่จอดอยู่ด้านล่างอย่างรุนแรง มีรายงานผู้บาดเจ็บเป็นพนักงานหญิง 1 ราย

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. โดย ร.ต.ท.โดมเดช สว่างวงศ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.พานทอง ได้รับแจ้งเหตุ จึงรีบประสานงานกับ พ.ต.อ.ชัยรัชช์กิตติ์ ชัยปฏิวัติ ผกก.สภ.พานทอง และนายปรัตรวีร์ วิจบ นอภ.พานทอง พร้อมฝ่ายความมั่นคงอำเภอพานทอง เพื่อเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าจุดเกิดเหตุคือบริษัทผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.มาบโป่ง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ส่วนที่ถล่มลงมาคือผนังอาคารส่วนต่อเติมบริเวณชั้น 2 ซึ่งพังลงมาทับพื้นที่จอดรถด้านข้างอาคาร ส่งผลให้รถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณนั้นได้รับความเสียหายอย่างหนักรวม 7 คัน ขณะที่รถยนต์คันอื่นๆ ที่จอดอยู่ใกล้เคียงก็ได้รับความเสียหายเล็กน้อยจากสะเก็ดปูน

หนึ่งในพนักงานที่เห็นเหตุการณ์ (ขอสงวนนาม) เล่าด้วยความตื่นตกใจว่า ขณะที่เกิดเหตุได้ยินเสียงดัง ‘ตู้ม’ สนั่นหวั่นไหว ทำให้พนักงานต่างพากันวิ่งหนีออกมาจากอาคารทันที ตอนแรกตนคิดว่าเป็นเสียงฟ้าร้อง แต่เมื่อออกมาก็พบว่าผนังอาคารได้ถล่มลงมาแล้ว พนักงานผู้นี้ยืนยันว่าอาคารส่วนที่ถล่มเป็นอาคารที่ก่อสร้างเสร็จมานานแล้ว

พนักงานอีกราย (ขอสงวนนาม) เปิดเผยว่า ตอนที่อาคารถล่มลงมาตนได้ยินเสียงไม่ชัดนัก เหมือนเสียงของตกกระแทกแรงๆ และระบุว่าจุดที่ถล่มอยู่ใกล้กับบริเวณอาคารฝ่ายบุคคล ซึ่งปกติแล้วจะไม่มีพนักงานเข้าไปนอนพักอาศัยอยู่

ในส่วนของผู้บาดเจ็บ มีรายงานเบื้องต้นว่า เป็นพนักงานหญิงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ซึ่งทางบริษัทได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาแล้ว ทำให้ยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บที่แน่ชัดได้ อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผู้บาดเจ็บมีอาการเพียงเล็กน้อย

สิ่งที่น่าสังเกตคือ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทได้ยืนกั้นพื้นที่อย่างเข้มงวด ไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ และผู้สื่อข่าวเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ด้านในโดยเด็ดขาด

ด้าน พ.ต.อ.ชัยรัชช์กิตติ์ ชัยปฏิวัติ ผกก.สภ.พานทอง เปิดเผยภายหลังการตรวจสอบเบื้องต้นว่า ส่วนที่พังลงมาคือผนังอาคารที่ต่อเติม ซึ่งได้ทับรถยนต์ที่จอดอยู่ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ขณะนี้ทางวิศวกรของบริษัทกำลังเข้าตรวจสอบหาสาเหตุของการถล่มอย่างละเอียด และทางบริษัทยืนยันว่าได้ทำประกันภัยไว้แล้ว จึงคาดว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องการชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งจะต้องมีการประเมินมูลค่าความเสียหายทั้งส่วนของอาคารที่พังลงมาและรถยนต์ที่เสียหายทั้งหมด เพื่อดำเนินการชดใช้ตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป

เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลใจให้กับพนักงานและผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับความปลอดภัยของโครงสร้างอาคารในโรงงาน ซึ่งจะต้องมีการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงและมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีกในอนาคต