สรรพสามิต ลุยปราบ ‘บุหรี่เถื่อน’ ยึดของกลางกว่า 3.5 หมื่นซอง ตรึงกำลังเข้มชายแดนกาญจน์-ประจวบฯ

นครปฐม – นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจราชการที่สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 7 จังหวัดนครปฐม และสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ในสังกัด เพื่อติดตามการดำเนินงานภายใต้นโยบาย “Zero Tolerance : สินค้าหลีกเลี่ยงภาษีสรรพสามิตต้องเป็นศูนย์” ที่มุ่งเน้นการป้องกันและปราบปรามการลักลอบจำหน่ายสินค้าหนีภาษีอย่างจริงจัง

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังได้เร่งรัดให้หน่วยงานในพื้นที่ปราบปรามการลักลอบนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่เถื่อน ซึ่งเป็นสินค้าที่สร้างความเสียหายต่อระบบภาษีของประเทศอย่างมาก โดยการลักลอบนำเข้ามักเกิดขึ้นตามแนวชายแดน รวมถึงการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์

หนึ่งในผลการดำเนินงานที่โดดเด่นของสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 7 คือ การเข้าตรวจค้นและยึดของกลางบุหรี่ที่มิชอบด้วยกฎหมายจำนวนมาก สืบเนื่องจากรายงานที่ได้รับว่ามีขบวนการลักลอบนำเข้าบุหรี่จากพื้นที่ชายแดนอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ผ่านช่องทางธรรมชาติในลักษณะ “กองทัพมด” ซึ่งเป็นการลำเลียงสินค้าเข้ามาในปริมาณน้อยแต่ทำอย่างต่อเนื่องเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่

จากการสืบสวนและเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่สามารถยึดบุหรี่เถื่อนได้จำนวนทั้งสิ้น 35,250 ซอง แบ่งเป็น:

  • บุหรี่ไทย FOR EXPORT ONLY ซองอ่อน จำนวน 30,000 ซอง
  • บุหรี่ไทย FOR EXPORT ONLY ซองแข็ง จำนวน 5,150 ซอง
  • บุหรี่ต่างประเทศ จำนวน 100 ซอง

การยึดของกลางในครั้งนี้ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางภาษีและค่าปรับรวมสูงถึง 4,707,894.48 บาท

นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า เส้นทางการลักลอบนำเข้าบุหรี่เถื่อนมีอยู่ 2 รูปแบบหลักคือ การลักลอบนำเข้าบุหรี่ต่างประเทศผ่านทางไปรษณีย์จากประเทศเพื่อนบ้าน และการลักลอบนำเข้าบุหรี่ที่ผลิตในประเทศแต่ระบุว่า “FOR EXPORT ONLY” ซึ่งถูกนำกลับเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติในลักษณะกองทัพมด ก่อนจะรวบรวมและลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนในเพื่อจำหน่ายต่อไป

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังได้เน้นย้ำและสั่งการให้สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 7 และสำนักงานพื้นที่ในสังกัด ขับเคลื่อนภารกิจภายใต้นโยบาย Zero Tolerance อย่างเข้มงวด โดยมีการสั่งการให้:

  1. ตรึงกำลังในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ตามแนวชายแดนตะวันตก ครอบคลุมด่านบ้านพุน้ำร้อน จุดนำเข้าก๊าซธรรมชาติบ้านอิต่อง จุดผ่อนปรนทางการค้าชั่วคราวที่ด่านพระเจดีย์สามองค์ และช่องทางบ้านต้นยาง อำเภอสังขละบุรี
  2. ตรึงกำลังในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บริเวณด่านพรมแดนสิงขร อำเภอเมือง
  3. ตรวจสอบช่องทางออนไลน์ ที่มักมีการส่งสินค้ามาจากทางภาคใต้ผ่านบริษัทขนส่งต่างๆ

สำหรับผลการดำเนินงานภาพรวมของสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 7 และสำนักงานพื้นที่ในสังกัด ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (1 ตุลาคม 2567 – 31 มีนาคม 2568) แสดงให้เห็นถึงความเข้มข้นในการปราบปราม โดยสามารถจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายได้รวมทั้งสิ้น 1,254 คดี เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 28.26% คิดเป็นค่าปรับรวม 51.49 ล้านบาท และประมาณการค่าปรับ 148.06 ล้านบาท

คดีที่พบมากที่สุดคือ คดียาสูบ คิดเป็น 57.34% ของคดีทั้งหมด รองลงมาคือคดีสุรา คิดเป็น 32.78% โดยมีรายละเอียดของกลางและค่าปรับในสินค้าประเภทอื่นๆ ด้วย เช่น น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน รถจักรยานยนต์ ไพ่ รถยนต์ เครื่องหอมและเครื่องสำอาง เครื่องดื่ม และแบตเตอรี่

ในตอนท้าย นายเผ่าภูมิ ได้กล่าวชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่สรรพสามิตภาคที่ 7 และพื้นที่ในสังกัด พร้อมทั้งกำชับให้ทำงานอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อปราบปรามสินค้าเถื่อนให้สิ้นซากและกำจัดให้ถึงต้นตอต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *