กทพ. ไขปม ก้อนปูนตกใส่รถบนทางพิเศษบูรพาวิถี ยัน ‘คนโยน’ ไม่ใช่โครงสร้าง เร่งล่าตัวดำเนินคดี

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีวัตถุคล้ายก้อนคอนกรีตตกใส่รถยนต์ของประชาชนที่สัญจรบนทางพิเศษบูรพาวิถี จนได้รับความเสียหาย ยืนยันผลการตรวจสอบจากทีมวิศวกรอย่างละเอียดว่า ไม่ได้เกิดจากความชำรุดหรือการกะเทาะของโครงสร้างทางพิเศษแต่อย่างใด แต่มีหลักฐานชัดเจนจากกล้องวงจรปิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการกระทำของบุคคลที่โยนก้อนปูนลงมาจากสะพานลอย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเร่งติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้ออกมาชี้แจงกรณีที่มีการรายงานข่าวและเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่มีวัตถุคล้ายก้อนคอนกรีตตกจากบริเวณสะพานลอยบนถนนบางนา-ตราด ทำให้รถยนต์ของผู้ใช้ทางได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบริเวณกระจกหน้ารถ ซึ่งสร้างความกังวลต่อผู้ใช้ทางเกี่ยวกับความปลอดภัยของโครงสร้างทางพิเศษ

หลังเกิดเหตุ กทพ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ส่งทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุอย่างละเอียดทันที ผลการตรวจสอบยืนยันอย่างชัดเจนว่า โครงสร้างของทางพิเศษบูรพาวิถี ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ กทพ. ไม่ได้มีความเสียหาย รอยร้าว หรือร่องรอยของการกะเทาะของคอนกรีตเกิดขึ้นในบริเวณดังกล่าวแต่อย่างใด

นอกจากนี้ กทพ. ยังได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งแขวงทางหลวงสมุทรปราการ ซึ่งดูแลถนนบางนา-ตราด และเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ เพื่อตรวจสอบข้อมูลจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญในการค้นหาสาเหตุที่แท้จริง และจากภาพวงจรปิด พบหลักฐานที่ชัดเจนว่าเหตุการณ์ก้อนปูนตกใส่รถนั้น เกิดจากการกระทำของบุคคลที่อยู่บนสะพานลอย โดยได้โยนก้อนปูนดังกล่าวลงมาบนพื้นผิวการจราจรของทางพิเศษ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้ใช้รถใช้ถนนเบื้องล่าง

จากหลักฐานที่ได้จากกล้องวงจรปิด กทพ. ยืนยันว่าจะเร่งประสานงานและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ เพื่อดำเนินการสืบสวนและติดตามตัวผู้ที่ก่อเหตุอันตรายนี้มาดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีกในอนาคต

การทางพิเศษฯ ขอเน้นย้ำว่า ความปลอดภัยของผู้ใช้ทางเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด หากประชาชนผู้ใช้ทางประสบเหตุการณ์ในลักษณะนี้ หรือพบเห็นสิ่งผิดปกติบนทางพิเศษ ขอความกรุณาแจ้งเหตุการณ์ หรือติดต่อ กทพ. โดยตรงทันที ผ่านทาง EXAT Call Center หมายเลข 1543 ซึ่งพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อที่ กทพ. จะได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้ความช่วยเหลือ และดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อให้ผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรมโดยเร็วที่สุด

เหตุการณ์นี้เป็นการเตือนภัยถึงอันตรายที่อาจเกิดจากการกระทำโดยประมาทหรือเจตนาร้ายของบุคคลภายนอก ซึ่ง กทพ. จะดำเนินการอย่างเข้มงวดเพื่อรักษาความปลอดภัยบนโครงข่ายทางพิเศษ และขอความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสเพื่อช่วยกันสอดส่องดูแลความปลอดภัยบนท้องถนน