เปิดปมร้อน! อดีตผู้ใหญ่บ้าน ยิงหลานเขยดับคา สวนทุเรียน สารภาพสิ้น ทนไม่ไหวหลานสาวถูกซ้อม

นครศรีธรรมราช – อดีตผู้ใหญ่บ้านวัย 59 ปี เข้ามอบตัวและเปิดปากสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือใช้อาวุธปืนยิงหลานเขยเสียชีวิตในสวนทุเรียน ที่ ต.กลาย อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช อ้างเหตุสุดทนเห็นหลานสาวซึ่งเป็นภรรยาของผู้ตายถูกทำร้ายร่างกายและทรัพย์สินซ้ำซาก จนต้องเข้าคุ้มครองและตัดสินใจก่อเหตุสะเทือนใจขึ้น

จากกรณีเหตุสะเทือนขวัญที่ นายสมชาย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ถูกพบเป็นศพถูกยิงเสียชีวิตภายในสวนทุเรียน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผู้ตายและภรรยาได้ร่วมกันปลูกและดูแลมานานหลายปี โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากที่นายสมชายมีปากเสียงและทะเลาะกับภรรยาบ่อยครั้ง และก่อนเสียชีวิตได้เข้าไปตัดทำลายต้นทุเรียนในสวน สร้างความไม่พอใจให้กับญาติฝ่ายภรรยา ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรท่าศาลา ได้เร่งทำการสืบสวนสอบสวนพยานแวดล้อมและญาติของภรรยาผู้ตายรวม 9 ปาก โดยพุ่งเป้าไปที่ผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งซึ่งเป็นบุคคลที่สามารถเข้าออกบริเวณสวนทุเรียนที่เกิดเหตุได้อย่างอิสระ

การตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงบ้านพักของผู้ต้องสงสัย ยิ่งทำให้เจ้าหน้าที่มั่นใจในเบาะแส เมื่อพบภาพผู้ต้องสงสัยออกจากบ้านก่อนช่วงเวลาเกิดเหตุ พร้อมสะพายอาวุธปืนลูกซองยาว และมีการแต่งกายที่พยายามปกปิดใบหน้าด้วยหมวกไหมพรม แม้ในการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องสงสัยยังคงให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้วยพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ ทั้งจากคำให้การของพยานแวดล้อม ภาพจากกล้องวงจรปิด และการวิเคราะห์พฤติกรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยื่นเรื่องขออนุมัติหมายจับและหมายค้นต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับและหมายค้นบ้านผู้ต้องสงสัยตามหมายศาลที่ จ.248/2568 ลงวันที่ 6 พฤษภาคม 2568

ต่อมาในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ธวัชชัย สังฆมิตตกล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าศาลา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำกำลังเข้าทำการจับกุมตัว นายจรูญ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี ซึ่งอดีตเคยดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านใน ต.กลาย อ.ท่าศาลา และเป็นญาติสนิทของภรรยาผู้ตาย

นายจรูญ ถูกแจ้งข้อหาในหลายกรรมฐาน ประกอบด้วย ฐานความผิดฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร

หลังจากการนำตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียด นายจรูญในที่สุดก็ยอมเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิงนายสมชายเสียชีวิตจริง โดยให้เหตุผลว่ามาจากความสงสารหลานสาว (ภรรยาของผู้ตาย) ที่มักจะถูกนายสมชายทำร้ายทุบตีอยู่เป็นประจำ ตั้งแต่สมัยที่ตนยังเป็นผู้ใหญ่บ้าน และยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

นายจรูญ เล่าถึงชนวนเหตุในคืนเกิดเหตุว่า ก่อนเกิดเหตุหลานสาวได้โทรศัพท์มาบอกว่าถูกนายสมชายทำร้ายร่างกายอีกครั้ง ด้วยความทนไม่ไหวจึงได้แนะนำให้หลานสาวหนีออกจากบ้านไปพักอยู่กับพ่อ จากนั้นตนเองจึงได้นำอาวุธปืนลูกซองที่เตรียมไว้เข้าไปในสวนทุเรียน และพบกับนายสมชายที่กำลังทำลายต้นทุเรียนอยู่ ก่อนจะตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงนายสมชายจนเสียชีวิต เมื่อก่อเหตุเสร็จสิ้นได้นำอาวุธปืนไปซ่อนไว้ในบริเวณใกล้เคียงในสวนทุเรียน ก่อนจะเดินทางกลับบ้านตามปกติ

นอกจากนี้ นายจรูญยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายสมชายมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และมักจะอาละวาดทำร้ายร่างกายภรรยา รวมถึงทำลายข้าวของทรัพย์สินภายในบ้านอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ตนไม่สามารถทนดูพฤติกรรมดังกล่าวได้อีกต่อไป ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การตัดสินใจก่อเหตุในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม แม้นายจรูญจะรับสารภาพแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป โดยจะนำตัวนายจรูญไปทำการค้นหาอาวุธปืนของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุ และดำเนินการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการและส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมสมบูรณ์.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *