จุดที่ทำให้เกิดเสียงแตกมากที่สุดคือ การที่เธอได้นำ “กางเกงใน” ที่เธอเคยสวมใส่มาเปิดประมูล โดยตั้งราคาเริ่มต้นไว้สูงถึง 2,000 ดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งคิดเป็นเงินไทยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 8,600 บาท ถือเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงสำหรับหลาย ๆ คน

หลังจากข่าวการประมูลครั้งนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีกระแสตอบรับที่หลากหลาย แต่ส่วนใหญ่เป็นไปในเชิงลบ โดยมีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า ราคาที่ตั้งไว้นั้นสูงเกินไป ไม่สมเหตุสมผล และไม่คุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่าย บางส่วนถึงกับแนะนำว่า หากมีเงินจำนวนนี้ ควรนำไปซื้อเสื้อผ้าหรือสินค้าอื่น ๆ ของนักแสดง AV ชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่นซึ่งอาจมีชื่อเสียงมากกว่าแทน

นอกจากนี้ ยังมีคอมเมนต์ที่ค่อนข้างรุนแรง โดยมีคนตั้งคำถามในทำนองว่า “อดอยากถึงขั้นต้องนำกางเกงในออกมาขายเลยหรือ?” ซึ่งเป็นการแสดงความเห็นที่พาดพิงไปถึงสถานะทางการเงินของเธอ และสร้างความไม่พอใจให้กับแฟนคลับของเธอ

เมื่อเผชิญกับกระแสโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เอเรน่า โซ ก็ไม่ได้นิ่งเฉย เธอได้ออกมาโพสต์ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าที่นำมาประมูล โดยยืนยันว่า เสื้อผ้าและชุดชั้นในทุกชิ้นที่นำมาขายนั้น มีภาพถ่ายที่ชัดเจนยืนยันว่าเป็นชุดที่เธอได้สวมใส่จริง

ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังระบุเพิ่มเติมว่า สินค้าเหล่านี้เธอได้สวมใส่มาแล้วเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่ามี “กลิ่นประจำตัว” ของเธอติดอยู่ ซึ่งเป็นจุดที่เธอต้องการเพิ่มมูลค่าและมอบประสบการณ์พิเศษให้กับผู้ซื้อที่ชื่นชอบและอยากได้ของสะสมที่มีความเฉพาะตัวจากเธอ

เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้าและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ เธอยังได้ เซ็นชื่อ ลงบนกางเกงในที่นำมาประมูลด้วย พร้อมทั้งรับรองว่าสินค้าทุกชิ้นจะถูกบรรจุในถุงอย่างมิดชิด เพื่อรักษาความสะอาดและความเป็นส่วนตัวระหว่างการจัดส่ง ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดและต้องการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ที่ชนะการประมูล

นอกจากจะชี้แจงเรื่องสินค้าแล้ว เอเรน่า โซ ยังได้ออกมาสวนกลับพฤติกรรมของชาวเน็ตบางกลุ่มที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงลบ โดยเธอตั้งข้อสังเกตว่า คนกลุ่มนี้นั้นส่วนใหญ่ไม่ได้ติดตามบัญชีโซเชียลมีเดียของเธอเป็นประจำ แต่จะปรากฏตัวและเข้ามาแสดงความคิดเห็นเฉพาะในเวลาที่มีข่าวคราวหรือประเด็นเกิดขึ้น ซึ่งทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจและตั้งคำถามถึงเจตนา

ประเด็นเรื่องการประมูลชุดชั้นในใช้แล้วของ เอเรน่า โซ สะท้อนให้เห็นถึงกระแสการสร้างรายได้รูปแบบใหม่ของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงในบางวงการ รวมถึงปฏิกิริยาที่หลากหลายของผู้คนในสังคมออนไลน์ ซึ่งมีทั้งผู้ที่เข้าใจและพร้อมสนับสนุน และผู้ที่รู้สึกไม่เห็นด้วยหรือมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม

ข้อมูลอ้างอิง: ettoday