BREAKING: “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าตัว เอเลียส ดอเลาะ เสริมแกร่งแนวรับ เตรียมลุยไทยลีก
มีรายงานข่าวล่าสุดจากวงการฟุตบอลอาเซียน เผยแพร่เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 (ตามการรายงานของแฟนเพจ ASEAN FOOTBALL) ระบุถึงความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในตลาดซื้อขายนักเตะ เมื่อ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สโมสรชั้นนำแห่งศึกไทยลีก 1 และเจ้าของสถิติแชมป์ไทยลีกมากที่สุด 10 สมัย ประสบความสำเร็จในการบรรลุข้อตกลงคว้าตัว เอเลียส ดอเลาะ กองหลังดีกรีทีมชาติไทย เข้ามาร่วมทีมเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในแนวรับอย่างเป็นทางการแล้ว
ปราการหลังวัย 32 ปี ลูกครึ่งไทย-สวีเดน ผู้นี้ เพิ่งจะสิ้นสุดการผจญภัยในลีกอินโดนีเซีย หลังจากใช้เวลาเป็นกำลังสำคัญให้กับสโมสร บาหลี ยูไนเต็ด ตลอดระยะเวลา 2 ฤดูกาลเต็ม เขาลงสนามช่วยทีมอย่างสม่ำเสมอและมีบทบาทสำคัญในเกมรับ ก่อนที่จะตัดสินใจเดินทางกลับสู่ประเทศไทย เพื่อค้าแข้งในลีกสูงสุดของบ้านเกิดอีกครั้ง
การย้ายมาร่วมทัพ “ปราสาทสายฟ้า” ของ เอเลียส ดอเลาะ ถือเป็นการเสริมทัพที่น่าจับตามองของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือใหญ่ โดย เอเลียส ดอเลาะ มีประสบการณ์ในระดับสูง ทั้งในนามสโมสรและในนามทีมชาติไทย ซึ่งเขาเคยเป็นส่วนหนึ่งของทัพ “ช้างศึก” และได้รับการยอมรับในเรื่องความแข็งแกร่งในการป้องกันลูกกลางอากาศและการเข้าสกัดที่เด็ดขาด
สำหรับเส้นทางการค้าแข้งในประเทศไทย เอเลียส ดอเลาะ เป็นที่รู้จักดีสำหรับแฟนบอลชาวไทย โดยเขาเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับสโมสร สงขลา ยูไนเต็ด ในลีกรอง ก่อนจะย้ายขึ้นมาสร้างชื่อเสียงอย่างโดดเด่นในไทยลีกกับ การท่าเรือ เอฟซี ซึ่งฟอร์มอันคงเส้นคงวาของเขาที่ การท่าเรือ นี่เองที่ทำให้เขาได้รับโอกาสติดทีมชาติไทย และต่อยอดไปสู่การค้าแข้งในต่างแดนกับ บาหลี ยูไนเต็ด
การกลับมาของ เอเลียส ดอเลาะ สู่ไทยลีกกับสโมสรระดับท็อปอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในครั้งนี้ คาดว่าจะเข้ามาช่วยเติมเต็มและยกระดับคุณภาพของแนวรับทีมได้อย่างแน่นอน เป็นการเพิ่มตัวเลือกให้กับทีมในการรับมือกับการแข่งขันอันดุเดือดในทุกรายการ ทั้งในศึกไทยลีก เอฟเอ คัพ ลีก คัพ รวมถึงเวทีระดับนานาชาติที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีเป้าหมาย
แฟนบอลของ “ปราสาทสายฟ้า” ต่างแสดงความตื่นเต้นและเฝ้ารอที่จะได้เห็นปราการหลังรายนี้ลงสนามในสีเสื้อประจำสโมสร ส่วนการย้ายทีมครั้งนี้ก็สะท้อนให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในตลาดนักเตะไทย และความพยายามของสโมสรชั้นนำในการเสริมทัพเพื่อความสำเร็จในฤดูกาลต่อไป
ข้อมูลจาก : แฟนเพจ Facebook ASEAN FOOTBALL
ภาพ : FB ช้างศึก