นครพนม – เกิดเหตุสลดกลางดึกที่จังหวัดนครพนม รถเก๋งชนประสานงากับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ซึ่งมีตายายคู่หนึ่งที่ทำอาชีพเก็บของเก่าขายเป็นผู้ขับขี่ ทำให้เสียชีวิตคาที่ทั้งคู่ ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งติดตั้งสัญญาณไฟเตือนบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ร.ต.อ.สุรศักดิ์ สิงห์คะ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธาตุพนม จังหวัดนครพนม ได้รับแจ้งเหตุอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บริเวณถนนชยางกูร ช่วงบ้านต้อง ตำบลฝั่งแดง อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม มุ่งหน้าไปยังจังหวัดมุกดาหาร ตรงข้ามซอยใกล้ตลาดสดบ้านต้อง หลังรับแจ้งเหตุ จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม และเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางเข้าร่วมตรวจสอบและชันสูตรพลิกศพ

ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียนจังหวัดนครพนม จอดอยู่ในสภาพด้านหน้าพังเสียหายอย่างหนัก กระจกหน้าแตก ทราบชื่อคนขับคือ นายนพกร อายุ 30 ปี ซึ่งมาพร้อมกับภรรยา โดยทั้งคู่ทำงานอยู่ที่จังหวัดนครพนม และกำลังจะเดินทางไปทำธุระต่างจังหวัด นายนพกรยังคงยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ

ส่วนรถจักรยานยนต์คู่กรณี เป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง ซึ่งไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และมีล้อลากสำหรับขนของเก่าติดมาด้วย สภาพถูกชนพังเสียหายอย่างรุนแรง และกระเด็นห่างจากจุดที่ชนกว่า 20 เมตร

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 2 ราย ทราบชื่อคือ นายเงิน อายุ 74 ปี ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว และนางต้อย อายุ 71 ปี ซึ่งเป็นภรรยาที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วย ทั้งคู่ประกอบอาชีพเก็บของเก่าขาย และเป็นชาวบ้านในพื้นที่ตำบลฝั่งแดง อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการตรวจสอบและเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อประกอบการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายนพกร คนขับรถยนต์ ให้การยืนยันว่าตนเองไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ซึ่งไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในขณะขับขี่ โดยให้การว่า ตนเองขับรถมาจากตัวเมืองนครพนม มุ่งหน้าไปทางจังหวัดมุกดาหาร เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางร่วมทางแยกที่ตัดกับจุดกลับรถ ปรากฏว่ามีรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตได้ขับออกมาจากซอยในระยะกระชั้นชิด ทำให้ไม่สามารถเบรกได้ทัน จึงเกิดการชนอย่างแรง เป็นเหตุให้ทั้งสองเสียชีวิต นายนพกรแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะรับผิดชอบชดเชยเยียวยาตามขั้นตอนของกฎหมาย

ด้านญาติของผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลว่า ตายายทั้งสองมีฐานะยากจน ทำอาชีพเก็บของเก่าขายเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพและเลี้ยงครอบครัว โดยลูกๆ ส่วนใหญ่ไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด ส่วนการชดเชยเยียวยาคงต้องเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย

ขณะเดียวกัน ชาวบ้านในพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นและวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาติดตั้งสัญญาณไฟจราจร หรือป้ายเตือนที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำรอย เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นจุดเสี่ยงและมักเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง พร้อมทั้งแจ้งเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนบริเวณดังกล่าวให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ