EGCO Group โชว์ผลงานแกร่ง ไตรมาสแรก กำไรพุ่ง 115% แตะ 3.5 พันล้านบาท เดินหน้ากลยุทธ์ Asset Recycling สร้างการเติบโต

EGCO Group โชว์ผลงานแกร่ง ไตรมาสแรก กำไรพุ่ง 115% แตะ 3.5 พันล้านบาท เดินหน้ากลยุทธ์ Asset Recycling สร้างการเติบโต

กรุงเทพฯ – บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group รายงานผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 แม้ต้องเผชิญกับความผันผวนของอุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลก จากปัจจัยท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์ สงครามการค้า และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

นางจิราพร ศิริคำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO Group เปิดเผยว่า ในไตรมาสแรกของปี 2568 บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโอโรงไฟฟ้าและการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีผลประกอบการที่น่าพอใจ โดยมีรายได้รวม 10,838 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสูงถึง 3,577 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 115% หรือคิดเป็น 1,915 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโตอย่างก้าวกระโดดในไตรมาสนี้ มาจากการรับรู้กำไรจากการขายหุ้นทั้งหมดใน โรงไฟฟ้า RISEC ในสหรัฐอเมริกา และ โรงไฟฟ้า Boco Rock Wind Farm ในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการบริหารสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ (Asset Recycling) ของ EGCO Group โดยมีเป้าหมายเพื่อนำเงินที่ได้จากการขายสินทรัพย์ไปลงทุนในโครงการใหม่ ๆ ที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มและผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวต่อไป

นอกจากผลการดำเนินงานที่โดดเด่นแล้ว ในช่วงไตรมาสแรก EGCO Group ยังมีความเคลื่อนไหวทางธุรกิจที่สำคัญอื่น ๆ ได้แก่:

  • โรงไฟฟ้า Yunlin ในไต้หวัน ได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบครบ 80 ต้น รวมกำลังผลิต 640 เมกะวัตต์
  • โรงไฟฟ้า Quezon ในฟิลิปปินส์ ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฉบับใหม่ ระยะเวลา 15 ปี เสริมสร้างความมั่นคงทางรายได้
  • ลงนามสัญญาซื้อหุ้น 49% ในกลุ่ม โรงไฟฟ้า Pinnacle ll ในสหรัฐอเมริกา เป็นการขยายการลงทุนในตลาดพลังงานสำคัญ
  • เพิ่มทุน 95 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใน CDI ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค ในอินโดนีเซีย ตอกย้ำการลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพ

นางจิราพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ยังคงมีความผันผวน EGCO Group ยังคงมุ่งมั่นในการแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ ๆ ทั้งในธุรกิจไฟฟ้า ทั้งโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียน ผ่านการลงทุนทั้งรูปแบบการซื้อกิจการ (M&A) และการพัฒนาโครงการใหม่ (Greenfield) รวมถึงการลงทุนในธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง

การดำเนินงานทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้กลยุทธ์ “Triple P” ซึ่งประกอบด้วย 3 เสาหลักสำคัญ ได้แก่ การเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้และผลกำไรอย่างต่อเนื่อง การบรรลุเป้าหมายองค์กรคาร์บอนต่ำ และการปรับเปลี่ยนองค์กรในทุกมิติเพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน

EGCO Group ยังคงติดตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจทั่วโลกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะนโยบายด้านการค้าและการลงทุนในประเทศที่เข้าไปดำเนินธุรกิจ เช่น นโยบายการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของสหรัฐอเมริกา เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนใหม่ ๆ จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมาย และสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงในพอร์ตโฟลิโอได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสแรกนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและบริหารจัดการสินทรัพย์ของ EGCO Group ในสภาวะตลาดที่ท้าทาย และเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *