วันที่ 10 เม.ย. 2568 ที่โรงแรมเซ็นทาราฯ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคำร้องยื่นยุบพรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคร่วมรัฐบาล ที่ให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครอบงำพรรค ว่า เลขาธิการ กกต. ได้สั่งให้คณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน และสอบปากคำคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว

นายอิทธิพร กล่าวว่า “เข้าใจว่าคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานจะสามารถเสนอเรื่องให้เลขาธิการ กกต. พิจารณาได้ในเร็ววันนี้ว่ากรณีนี้เป็นเหตุอันควรยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้มีการยุบพรรคหรือไม่ ซึ่งถ้าหากเลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองเห็นเช่นนั้นก็จะต้องเสนอเรื่องให้ที่ประชุม กกต. พิจารณา”

ทั้งนี้ หากที่ประชุม กกต. เห็นด้วยกับทางเลขาธิการ กกต. ก็จะส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าเลขาธิการ กกต. เห็นว่าเรื่องนี้ไม่มีข้อเท็จจริงเพียงพอเชื่อถือได้ว่าการกระทำนี้ไม่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายพรรคการเมือง ก็จะสั่งยุติเรื่อง

นอกจากนี้ นายอิทธิพรยังให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าของคณะสืบสวนและไต่สวนที่มีราชการจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นเจ้าพนักงานสืบสวน และไต่สวนกรณีฮั้วเลือก สว. ว่า คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดนี้ทำงานคืบหน้าไปแล้วอยู่ที่ร้อยละ 30 เนื่องจากต้องเกี่ยวข้องกับการสอบพยานบุคคลจำนวนมาก

“การทำงานจะเริ่มจากคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน และมาสู่ส่วนกลาง ทั้งความเห็นของเลขาธิการ กกต. ไปยังอนุกรรมการวินิจฉัย เพื่อกลั่นกรองก่อนจะเสนอที่ประชุมชุดใหญ่ กกต. เชื่อว่าเรื่องนี้เราไม่ทำอย่างชักช้าแน่” ประธาน กกต. กล่าว

เมื่อถามว่าจะมีเรียกคณะ สว. สำรองมาให้ปากคำด้วยหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า คงต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดนั้น โดยหากรับเป็นสำนวนแล้วก็ควรจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ปากคำให้ครบถ้วน เพื่อเปิดโอกาสให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา