กรุงเทพฯ – ความเคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับคดีการสมยอมกัน หรือ ‘ฮั้ว’ ในกระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็นไปอย่างเข้มข้น เมื่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เริ่มทยอยเข้าปิดหมายหรือส่งหนังสือเชิญผู้สมัครรับเลือก สว. ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในคดีดังกล่าว ไปตามบ้านพักทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

หนังสือเชิญที่ถูกส่งออกไปนี้ เป็นเอกสารลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ลงนามโดย ร.ต.อ. ชนินทร์ น้อยเล็ก ประธานกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลาง คณะที่ 26 โดยมีเนื้อหาสำคัญเป็นการแจ้งให้ผู้ที่ได้รับหนังสือไปรับทราบข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการ พร้อมแนบเอกสารบันทึกการแจ้งและรับทราบข้อกล่าวหาจำนวน 3 แผ่นมาด้วย

ใจความสำคัญของเอกสารดังกล่าวระบุว่า มีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏต่อ กกต. ว่า ผู้ที่ได้รับหนังสือซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศ กลุ่มที่ 20 หมายเลข 144 ได้กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ในมาตราสำคัญหลายมาตรา ได้แก่ มาตรา 70 ประกอบมาตรา 36, มาตรา 77(1), และมาตรา 62 ซึ่งบทบัญญัติเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการกระทำที่อาจเข้าข่ายเป็นการสมยอม การจัดตั้ง หรือการดำเนินการใดๆ ที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนในการเลือก สว.

ภายหลังจากที่ กกต. ได้รับเรื่องร้องเรียนหรือพบเห็นเหตุอันควรสงสัยดังกล่าว ก็ได้มีคำสั่งให้ดำเนินการไต่สวน โดยมอบหมายให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลาง คณะที่ 26 ของสำนักงาน กกต. เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการตามคำสั่ง กกต. ที่ 1107/2568 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2568 และคำสั่งเพิ่มเติมที่ 1581/2568 ลงวันที่ 30 เมษายน 2568

ในการนี้ คณะกรรมการสืบสวนฯ ได้ส่งบันทึกการแจ้งและรับทราบข้อกล่าวหามายังผู้ถูกกล่าวหา เพื่อเปิดโอกาสให้ได้ทราบถึงข้อกล่าวหาอย่างครบถ้วน และมีโอกาสในการชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมแสดงพยานหลักฐาน รวมถึงให้ถ้อยคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ตามที่ระบุไว้ในมาตรา 43 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. พ.ศ. 2560 ประกอบข้อ 54 ของระเบียบ กกต. ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

เอกสารดังกล่าวได้นัดหมายให้ผู้ถูกกล่าวหาเดินทางไปให้ถ้อยคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ในวันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.30 น. ณ สำนักงาน กกต. ชั้น 3 อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร

ประเด็นที่สำคัญและถูกเน้นย้ำในเอกสาร คือ การแจ้งเตือนว่า หากผู้ถูกกล่าวหาไม่ไปดำเนินการตามวันและเวลาที่กำหนด จะถือว่าบุคคลนั้นสละสิทธิ์ในการชี้แจงข้อเท็จจริง การแสดงหลักฐาน หรือการให้ถ้อยคำแก้ข้อกล่าวหาทันที

ทั้งนี้ ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิที่จะให้ถ้อยคำหรือแสดงพยานหลักฐาน และมีสิทธิที่จะให้ทนายความหรือบุคคลซึ่งไว้วางใจเข้าร่วมรับฟังการชี้แจงได้ 1 คน อย่างไรก็ตาม กรณีที่ไม่สามารถนำบุคคลดังกล่าวมาเข้าร่วมรับฟังการชี้แจงได้นั้น จะไม่สามารถนำมาเป็นเหตุเพื่อขอเลื่อนการชี้แจงออกไปได้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเด็ดขาดในการดำเนินการของ กกต. ในขั้นตอนการไต่สวนคดี ‘ฮั้วเลือก สว.’ ในครั้งนี้

ความเคลื่อนไหวของ กกต. ในครั้งนี้ถือเป็นขั้นตอนทางกฎหมายที่สำคัญ เพื่อนำไปสู่การพิจารณาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายต่อไป ว่าจะมีผู้สมัคร สว. หรือผู้เกี่ยวข้องรายใดที่เข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.ป. ที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 หรือไม่.