กกต. แจงคืบหน้าคำร้องเลือกตั้ง อบจ. กว่า 500 เรื่อง เตรียมชง 5 สำนวนเข้า กกต. ชุดใหญ่ชี้ขาด

กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการพิจารณาคำร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ซึ่งจัดการเลือกตั้งไปเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 โดยมีคำร้องคัดค้านยื่นเข้ามาทั้งหมดจำนวน 505 เรื่อง

สำหรับการดำเนินการพิจารณาคำร้องของ กกต. ขณะนี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จไปแล้วทั้งสิ้น 114 เรื่อง

ในจำนวน 114 เรื่องที่ดำเนินการเสร็จสิ้นนั้น เป็นการพิจารณาคำร้อง 107 เรื่อง โดยมีคำสั่งไม่รับคำร้อง หรือรวมเรื่องการพิจารณาไปแล้ว 97 เรื่อง และมีคำร้องที่พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีมูล จึงมีคำสั่งยกคำร้องหรือสั่งยุติเรื่องจำนวน 10 เรื่อง ซึ่งใน 10 เรื่องนี้ มี 7 สำนวนที่ได้มีการวินิจฉัยชี้ขาดผลไปแล้ว โดยเป็นสำนวนที่มีคำสั่งยกคำร้อง 3 สำนวน มีคำสั่งให้ระงับสิทธิของผู้สมัคร 3 สำนวน และมีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาล 1 สำนวน

ขณะที่สำนวนคำร้องที่ยังคงอยู่ในระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน กกต. มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 391 เรื่อง แบ่งเป็นขั้นตอนต่างๆ ดังนี้

  • อยู่ระหว่างการตรวจคำร้อง ตรวจสอบเบื้องต้น จำนวน 7 เรื่อง
  • มีคำสั่งให้ดำเนินการสืบสวนไต่สวนแล้ว จำนวน 149 เรื่อง
  • สำนักงาน กกต. เสนอความเห็นเพื่อออกคำสั่งไม่รับคำร้อง จำนวน 95 เรื่อง
  • สำนักงาน กกต. สรุปสำนวน หรือจัดทำความเห็นเสนอต่อเลขาธิการ กกต. แล้ว จำนวน 113 สำนวน
  • เสนอสำนวนต่อคณะอนุกรรมการวินิจฉัยแล้ว จำนวน 22 เรื่อง
  • และมี 5 สำนวนสำคัญ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างที่สำนักงาน กกต. เตรียมเสนอเข้าสู่วาระการประชุมของคณะกรรมการ กกต. ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาและมีคำสั่งชี้ขาดต่อไป ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการพิจารณาในชั้น กกต.

สำหรับขั้นตอนการพิจารณาคำร้องและสำนวนการสืบสวนไต่สวนตามระเบียบของ กกต. มีกระบวนการหลัก 4 ขั้นตอน ได้แก่

  1. ขั้นที่ 1: สำนักงาน กกต. ประจำจังหวัด ดำเนินการสืบสวนหรือไต่สวนในพื้นที่ และจัดทำความเห็นเสนอต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด เพื่อให้ความเห็นประกอบสำนวน ก่อนจัดส่งสำนวนมายังสำนักงาน กกต. กลาง
  2. ขั้นที่ 2: เมื่อสำนวนมาถึงส่วนกลาง พนักงานสืบสวนและไต่สวนที่รับผิดชอบ จะดำเนินการวิเคราะห์สำนวน จัดทำความเห็นเสนอผ่านผู้บริหารฝ่าย และเสนอต่อเลขาธิการ กกต. เพื่อพิจารณาสั่งการในเบื้องต้น หรือเสนอต่อคณะอนุกรรมการฯ
  3. ขั้นที่ 3: หากสำนวนถูกเสนอต่อคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้ง คณะอนุกรรมการฯ จะพิจารณาทำความเห็น ก่อนที่สำนักงาน กกต. จะรวบรวมความเห็นเสนอต่อ กกต. ชุดใหญ่เพื่อพิจารณา
  4. ขั้นที่ 4: คณะกรรมการ กกต. ชุดใหญ่ จะพิจารณาสำนวนและความเห็นที่เสนอขึ้นมาทั้งหมด เพื่อมีคำสั่งชี้ขาด หรือสั่งการอื่นใดโดยเร็วที่สุดตามกรอบของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

การที่ 5 สำนวนเข้าสู่การพิจารณาของ กกต. ชุดใหญ่ ถือเป็นจุดสำคัญที่หลายฝ่ายจับตา เนื่องจากเป็นการเข้าสู่กระบวนการตัดสินใจขั้นสุดท้ายขององค์กรที่จะชี้ขาดอนาคตทางการเมืองของสมาชิกและนายก อบจ. ในพื้นที่นั้นๆ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *