คดีเลือก สว. ร้อนระอุ! กกต.เรียก 54 สว.ล็อตแรกแจงข้อหา ดีเอสไอพบ 1,200 รายพันเส้นเงิน

เกาะติดความเคลื่อนไหวล่าสุด กรณีการไต่สวนและตรวจสอบความผิดปกติในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งกำลังเป็นที่จับตาของสังคมอย่างใกล้ชิด

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้กำหนดนัดหมายสำคัญ ระหว่างวันที่ 19-21 พฤษภาคมนี้ โดยจะเป็นคิวของสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 54 คน ซึ่งถูกออกหมายเรียกล็อตแรกให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับการเลือก สว.

รายงานข่าวระบุว่า สว. กลุ่มแรกที่จะเข้าให้ถ้อยคำกับ กกต. แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มย่อย ซึ่งกลุ่มแรกนี้ล้วนแต่เป็นผู้มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง อาทิ นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา, พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา, นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงสี อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง และนายอลงกต วรกี เป็นต้น

สำหรับ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา และเป็นแกนนำคนสำคัญที่ออกมาเคลื่อนไหวตอบโต้ในคดีนี้ มีกำหนดเข้าชี้แจงอยู่ในกลุ่มที่สอง

เป็นเรื่องน่ายินดีที่ สว. บางส่วนแสดงความพร้อมให้ความร่วมมือกับกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ที่ได้ประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่าจะไม่ปิดวาจา พร้อมยืนยันที่จะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาตามวันและเวลาที่กำหนด และจะขอต่อสู้ข้อกล่าวหาตามข้อเท็จจริง รวมถึงพร้อมเข้ารับการตรวจสอบตามกระบวนการต่างๆ ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่ สว. ท่านอื่นที่ถูกออกหมายควรปฏิบัติตาม

ในส่วนของการดำเนินการโดยภาพรวมของสำนักงาน กกต. ได้มีการเผยแพร่ความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องและสำนวนเรื่องคัดค้านการเลือก สว. พบว่ามีคำร้องรวมทั้งสิ้น 585 เรื่อง ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ 391 เรื่อง โดยแบ่งเป็นการพิจารณาคำร้อง 240 เรื่อง ซึ่งมีคำสั่งไม่รับคำร้อง 109 เรื่อง สั่งยกคำร้องและสั่งยุติเรื่อง 129 เรื่อง และมีคำสั่งให้นับคะแนนใหม่ 2 เรื่อง

ขณะเดียวกัน ได้มีการวินิจฉัยชี้ขาดสำนวนไปแล้ว 151 สำนวน โดยมีคำสั่งยกคำร้อง 127 สำนวน, สั่งระงับสิทธิ์ผู้สมัคร 2 สำนวน, สั่งดำเนินคดีอาญา 10 สำนวน และสั่งยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อพิจารณาอีก 12 สำนวน

นอกเหนือจากประเด็นการคัดค้านการเลือก สว. แล้ว คดีที่เกี่ยวเนื่องในข้อหาฟอกเงินและอั้งยี่ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ล่าสุด โฆษกดีเอสไอได้แถลงถึงผลการสืบสวนสอบสวน โดยระบุว่า ตามรายงานการสืบสวนพบกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเครือข่ายเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงิน หรือเป็นบุคคลที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในขบวนการนี้จำนวนประมาณ 1,200 ราย

บุคคลทั้งหมดเหล่านี้ล้วนมาจากพยานหลักฐานด้านเส้นทางการเงินที่พนักงานสอบสวนดีเอสไอมีเหตุอันควรสงสัย และขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเตรียมออกหมายเรียกบุคคลกลุ่มดังกล่าวทั้งหมดเข้ามารับการสอบปากคำ เพื่อขยายผลและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม

คดีฮั้วเลือก สว. ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด และกำลังเป็นที่จับตาของประชาชนทั้งประเทศ แม้จะมีกระบวนการพยายามที่จะล้มหรือประวิงเวลา แต่เชื่อว่าพยานหลักฐานที่ชัดแจ้งและข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมดนั้น ยากที่จะต้านทานได้ในที่สุด

โดย : เภรี กุลาธรรม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *