กกต.แจงชัด! ข่าว “ฟัน 60 สว.คนดัง” ปมฮั้ว แค่ “ไต่สวน” ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา ยันทำตามขั้นตอนกฎหมาย

กรุงเทพฯ – คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาชี้แจงอย่างเป็นทางการถึงกรณีที่มีกระแสข่าวเผยแพร่ในวงกว้างว่า กกต.เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดปัจจุบันจำนวน 60 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการสมยอมหรือ “ฮั้ว” ในกระบวนการได้มาซึ่ง สว.

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ได้ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ถึงประเด็นดังกล่าว โดยกล่าวว่า “เรื่องนี้ไม่มีมูล ได้ยินแต่ข่าว” เป็นการปฏิเสธกระแสข่าวที่ระบุว่าจะมีการดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับ สว. กลุ่มดังกล่าวในวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 (ตามแหล่งข่าวต้นฉบับ)

ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวจากสำนักงาน กกต. ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่ออธิบายข้อเท็จจริงและขั้นตอนการดำเนินงานที่ถูกต้อง โดยระบุว่า ขณะนี้เรื่องการกล่าวหาเรื่อง “ฮั้วเลือก สว.” ยังอยู่ในระหว่างกระบวนการสืบสวนและไต่สวน โดยคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 ซึ่ง กกต. ได้มีคำสั่งแต่งตั้งขึ้นมา ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน กกต. และเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมกันดำเนินการ

แหล่งข่าวอธิบายว่า กระบวนการสืบสวนและไต่สวนนี้ถือเป็น ‘ขั้นที่ 1’ ของการดำเนินการตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน ไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งเป็นขั้นตอนเริ่มต้นเพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาว่าอาจมีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 32 (การช่วยเหลือผู้สมัคร), มาตรา 36 (การรู้เห็นเป็นใจ), มาตรา 62 (ผู้สมัครได้รับประโยชน์), มาตรา 70 (การสมยอมในการลงคะแนน) และมาตรา 77 (การกระทำผิดเพื่อจูงใจหรือช่วยเหลือ)

แหล่งข่าวจาก กกต. ย้ำว่า หากผลการสืบสวนและไต่สวนในขั้นตอนนี้พบว่า มีมูลหรือมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าอาจมีการกระทำความผิดตามข้อกล่าวหาดังกล่าวจริง หรือมีการฝ่าฝืน พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ดังกล่าว จึงจะมีการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ซึ่งคือการ ‘แจ้งข้อกล่าวหา’ ให้กับผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบอย่างเป็นทางการ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้เข้าชี้แจงข้อกล่าวหาและแก้ต่างตามสิทธิ์อันชอบธรรมของตนเอง

การดำเนินการของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 เมื่อเสร็จสิ้นในขั้นที่ 1 แล้ว จะมีการเสนอผลการพิจารณาไปยังผู้มีอำนาจพิจารณาในขั้นที่ 2 และ 3 ซึ่งอาจเป็นสำนักงาน กกต., เลขาธิการ กกต. หรือรองเลขาธิการ กกต. ที่ได้รับมอบหมาย เพื่อกลั่นกรองข้อมูล ก่อนจะเสนอต่อคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้ง และใน ‘ขั้นที่ 4’ ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้าย จึงจะนำเสนอต่อคณะกรรมการ กกต. ทั้งคณะ เพื่อพิจารณาชี้ขาดหรือมีคำสั่งต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไรกับผู้ถูกกล่าวหา

ดังนั้น แหล่งข่าวจากสำนักงาน กกต. จึงยืนยันอย่างชัดเจนว่า ข่าวที่ปรากฏออกมาว่า กกต. จ่อจะทำการแจ้งข้อกล่าวหาหรือดำเนินการในขั้นเด็ดขาดกับ 60 สว. คนดังในทันทีนั้น ยังเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงและขั้นตอนตามระเบียบปฏิบัติของ กกต. ซึ่งเน้นย้ำว่าทุกขั้นตอนต้องเป็นไปตามกรอบของกฎหมายและระเบียบที่กำหนดไว้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายในกระบวนการตรวจสอบ

การชี้แจงครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่กระบวนการเลือก สว. ชุดใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ซึ่งทำให้ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ สว. ชุดปัจจุบัน และกฎหมายที่ใช้ในการเลือก สว. ได้รับความสนใจอย่างมากจากสาธารณชน และ กกต. ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการทุกอย่างด้วยความรอบคอบและเป็นไปตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด