กกต. แจ้งข้อกล่าวหา สว. 60 คน ล็อตแรกคดี ‘ฮั้ว’ ดีเอสไอเดินหน้าคดีอาญา ปม อำนาจเจริญป่วนคดี?
กรุงเทพมหานคร – มีรายงานข่าวล่าสุดแจ้งว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เริ่มกระบวนการดำเนินการกับสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดปัจจุบันแล้ว โดยได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง สว. ล็อตแรกจำนวน 60 คน เพื่อให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริง
การแจ้งข้อกล่าวหานี้เกี่ยวข้องกับความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 ในหลายมาตรา ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมี สว. ล็อตที่สองที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันตามมาอีกจำนวนมาก
รายงานระบุว่า ผู้ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาล็อตแรกทั้ง 60 คนนั้น มีพฤติการณ์และพยานหลักฐานที่บ่งชี้ชัดเจนว่าการได้รับเลือกเป็น สว. นั้น ไม่ได้เกิดขึ้นโดยสุจริตเที่ยงธรรม แต่มีลักษณะของการ ‘ฮั้ว’ หรือการสมยอมกันเพื่อให้ได้เข้ามา
ขั้นตอนจากนี้ สว. ทั้ง 60 คนจะต้องเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับ กกต. เพื่อเข้าสู่กระบวนการไต่สวนตามขั้นตอน หากไม่มาก็ถือว่าไม่ประสงค์ที่จะชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา หลังจากนั้น กกต. จะพิจารณาเพื่อส่งเรื่องให้ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิทางการเมืองต่อไป หากพบว่ามีความผิดจริง
ความเคลื่อนไหวของ กกต. เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สังคมกำลังจับตาประเด็นเกี่ยวกับ สว. อย่างใกล้ชิด ก่อนหน้านี้ พลตำรวจตรี ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญฯ ของวุฒิสภา ได้ออกมาแถลงข่าวแสดงความกังวล หลังมี สว. จากจังหวัดอำนาจเจริญร้องเรียนขอความเป็นธรรม กรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าไปสอบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับการ ‘ฮั้ว’ เลือก สว. ในเขตจังหวัดอำนาจเจริญ โดยผู้ร้องมองว่าการสอบสวนมีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติและไม่เป็นกลาง
ประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ได้ทำหนังสือ ‘ลับ’ แจ้งถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย ระบุถึงกลุ่มบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เข้าไปบีบบังคับอดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา 2 คน ให้ยอมรับว่ามีการ ‘ฮั้ว’ การเลือก สว. จริง
สังคมส่วนใหญ่มองว่า เหตุการณ์ทั้งสองเรื่องที่เกิดขึ้นในจังหวัดอำนาจเจริญ มีความเกี่ยวเนื่องกัน และอาจมีจุดประสงค์เพื่อพยายามทำลายน้ำหนักของคดีที่กำลังดำเนินการอยู่ ทั้งโดย กกต. และดีเอสไอ
อย่างไรก็ตาม พลตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ชี้แจงว่า คดีที่ กกต. กำลังดำเนินการกับ สว. ล็อตแรกนั้น เป็นคนละส่วนกับคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังสอบสวนอยู่ ซึ่งคดีพิเศษของดีเอสไอในพื้นที่อำนาจเจริญนั้น เข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินและอั้งยี่ ซึ่งเป็นความผิดทางอาญาที่มีบทกำหนดโทษทั้งปรับและจำคุก
หากดีเอสไอพิจารณาสั่งคดีแล้ว ก็จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อเข้าสู่กระบวนการให้ศาลพิจารณาพิพากษาลงโทษตามกฎหมายต่อไป
การดำเนินการของทั้งสองหน่วยงานนี้ ยิ่งเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบกระบวนการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งสังคมต่างจับตาดูบทสรุปของคดีสำคัญนี้อย่างใกล้ชิด