เดือดกลางพัทยา! พ่อเหยื่อสาวสองพุ่งเข้าทำร้ายผู้ต้องหาชาวจีนขณะทำแผนฆ่าหั่นศพ
พัทยา – เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เมื่อญาติของผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นสาวประเภทสอง บุกเข้าพยายามทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาชาวจีน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในคดีฆ่าหั่นศพ
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พลตำรวจตรี ธวัชชัย กงจักร์แสนสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และ พันตำรวจเอก เอนก สระทองอยู่ ผู้กำกับการ สภ.เมืองพัทยา ได้ควบคุมตัว นายฟู ตงหยุง (Fu Tongyung) อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาชาวจีน ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมและอำพรางศพ นางสาววรนันท์ หรือน้องวุ่น อายุ 25 ปี สาวประเภทสอง ชาวจังหวัดหนองคาย ซึ่งถูกพบเป็นศพถูกหั่นแยกชิ้นส่วนในสภาพที่น่าสยดสยอง
นายฟู ตงหยุง ถูกจับกุมตัวได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนถูกนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองพัทยา และให้การรับสารภาพในคดีดังกล่าวเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา จากนั้นในวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดี ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ และประชาชนจำนวนมากที่มามุงดูเหตุการณ์
ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังควบคุมตัวนายฟู เพื่อนำตัวกลับไปยังห้องขัง หลังจากเสร็จสิ้นการทำแผนฯ ได้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อกลุ่มญาติของผู้เสียชีวิต ซึ่งประกอบด้วย นายอ้วน ผู้เป็นพ่อ พี่สาวคนโต พี่สาวคนที่สอง และสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ที่มารอติดตามสถานการณ์ ได้พากันกรูเข้าใส่ผู้ต้องหาอย่างรวดเร็ว เพื่อหวังจะเข้าทำร้ายร่างกาย สร้างความแตกตื่นให้กับเจ้าหน้าที่และผู้เห็นเหตุการณ์เป็นอย่างมาก
ในช่วงชุลมุนดังกล่าว นายอ้วน ผู้เป็นพ่อของน้องวุ่น ได้ใช้ขวดพลาสติกที่ถือมา พุ่งเข้าทุบไปยังใบหน้าของผู้ต้องหาอย่างแรง แต่พลาดท่าล้มลงไปกองกับพื้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าควบคุมสถานการณ์อยู่ ได้รีบเข้าขัดขวางและกันตัวญาติของผู้เสียชีวิตออก พร้อมกับเร่งนำตัวผู้ต้องหาหลบเข้าไปในห้องควบคุมตัวโดยทันที ท่ามกลางเสียงสาปแช่งและเสียงร้องไห้ด้วยความโศกเศร้าและเจ็บแค้นของกลุ่มญาติ
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความโกรธแค้นและความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงของครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่ต้องมาเผชิญกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญดังกล่าว ขณะที่คดีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์ที่สุด ก่อนจะส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาต่อไป