กรมวิทย์ฯ เร่งรับรองห้องแล็บ หนุนทุเรียนไทยส่งออกจีนตามมาตรฐานสากล
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ยืนยันความพร้อมในการให้การรับรองห้องปฏิบัติการทดสอบทุเรียน ตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 17025 เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการและเกษตรกรไทยในการส่งออกทุเรียนไปยังตลาดสำคัญอย่างประเทศจีน.
การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นภายหลังกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำหนดแนวทางการออกใบรับรองสุขอนามัยพืชพื้นฐานสำหรับการส่งออกทุเรียน โดยระบุว่าตั้งแต่ วันที่ 13 มกราคม 2568 เป็นต้นมา ทุเรียนทุกตู้ (Shipment) ที่ส่งออกไปยังประเทศจีน จะต้องมีเอกสารรายงานผลการตรวจวิเคราะห์สารปนเปื้อนสำคัญ ได้แก่ แคดเมียม (Cadmium) และสาร BY2 จากห้องปฏิบัติการที่กรมวิชาการเกษตรให้การยอมรับ เพื่อประกอบการขอใบรับรองสุขอนามัยพืช ณ ด่านตรวจ ซึ่งหนึ่งในคุณสมบัติเบื้องต้นของห้องปฏิบัติการที่ได้รับการยอมรับคือ ต้องได้รับการรับรองความสามารถตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025.
ดร.พจมาน ท่าจีน รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดี กรมวิทยาศาสตร์บริการ เปิดเผยว่า กรมวิทย์ฯ โดยสำนักบริหารและรับรองห้องปฏิบัติการ (สบร.) เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาและให้การรับรองความสามารถของห้องปฏิบัติการที่ให้บริการทดสอบทุเรียน เนื่องจากทุเรียนถือเป็นพืชเศรษฐกิจหลักที่นำรายได้เข้าประเทศเป็นลำดับต้นๆ ในกลุ่มสินค้าเกษตร โดยมีประเทศจีนเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุด คิดเป็นสัดส่วนถึง 97% ของตลาดส่งออกทุเรียนทั้งหมด เนื่องจากผู้บริโภคชาวจีนมีความนิยมและมีกำลังซื้อสูง อย่างไรก็ตาม ทุเรียนไทยต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องสารปนเปื้อน.
สาร BY2 หรือ Sudan Red เป็นสีย้อมที่ใช้ในอุตสาหกรรม ซึ่งไม่อนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารหรือผลไม้สด หากตรวจพบในทุเรียน จะถือว่าเป็นสารปนเปื้อนผิดกฎหมาย โดยมีค่ากำหนดในการตรวจพบ (LOD – Limit of Detection) ไม่เกิน 1 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม และค่าปริมาณที่ตรวจพบได้ต่ำสุด (LOQ – Limit of Quantitation) ไม่เกิน 2 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม ขณะที่ แคดเมียม เป็นโลหะหนักที่อาจปนเปื้อนมาจากดิน น้ำ หรือปุ๋ยเคมีที่ใช้ในการเกษตร มาตรฐานสากลและประเทศจีนกำหนดค่าปนเปื้อนสูงสุดในอาหารและผลไม้ไว้ไม่เกิน 0.05 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม.
ดร.พจมาน กล่าวย้ำว่า เพื่อให้การส่งออกทุเรียนไทยเป็นไปอย่างราบรื่นและตอบสนองต่อข้อกำหนดของประเทศคู่ค้า กรมวิทยาศาสตร์บริการ โดย สบร. จึงมีความพร้อมอย่างยิ่งที่จะดำเนินการให้การรับรองความสามารถของห้องปฏิบัติการต่างๆ ที่ต้องการให้บริการทดสอบทุเรียน ตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 17025 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ.
ด้าน นางจันทรัตน์ วรสรรพวิทย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารและรับรองห้องปฏิบัติการ (สบร.) กล่าวเสริมว่า การเร่งรัดให้การรับรองห้องปฏิบัติการในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มจำนวนห้องปฏิบัติการที่มีความสามารถและขึ้นทะเบียนเป็นที่ยอมรับของกรมวิชาการเกษตร ซึ่งจะส่งผลให้การทดสอบทุเรียนส่งออกสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ทันเวลา และตอบสนองต่อความต้องการของผู้ประกอบการส่งออกทุเรียนที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การมีห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากลจำนวนมากพอ จะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับประเทศคู่ค้า และช่วยรักษาชื่อเสียงคุณภาพของทุเรียนไทยในตลาดโลก.