DSI เตือนภัย! ‘กองร้อยปอยเปต’ มุกเก่า มิจฉาชีพใช้หลอกโอนเงิน อ้างเป็น จนท.รัฐ เจอแบบนี้ ‘ไม่เชื่อ ไม่โอน’ วางสายทันที
กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ออกโรงเตือนภัยประชาชนถึงกลโกงรูปแบบใหม่ของมิจฉาชีพที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ DSI หรือหน่วยงานรัฐ โทรศัพท์หลอกลวง โดยมักใช้ข้อมูลส่วนตัวที่ถูกต้องเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนข่มขู่ว่ามีคดีและหลอกให้โอนเงิน DSI ย้ำหลักการ ‘ไม่เชื่อ ไม่กลัว ไม่โอน’ และให้ตรวจสอบกับหน่วยงานจริงก่อนทุกครั้ง
ปัญหามิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนผ่านช่องทางโทรศัพท์และออนไลน์ยังคงเป็นปัญหาที่ต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลวิธีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือหน่วยงานราชการ ซึ่งเป็นรูปแบบที่สร้างความตื่นตระหนกและความน่าเชื่อถือให้กับเหยื่อได้เป็นอย่างดี
ล่าสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่มักถูกมิจฉาชีพนำชื่อไปแอบอ้าง ได้โพสต์ข้อความเตือนภัยประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยระบุถึงพฤติการณ์ของกลุ่มมิจฉาชีพที่โทรศัพท์เข้ามาหลอกลวงประชาชนว่า หากท่านใดได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่แอบอ้างเป็น DSI แล้วมีพฤติการณ์ดังต่อไปนี้ ขอให้สันนิษฐานว่าเป็นมิจฉาชีพและวางสายทันที
พฤติการณ์ที่ DSI เตือนภัย มีดังนี้:
- บุคคลที่โทรมา สามารถระบุชื่อและหมายเลขบัตรประชาชนของคุณได้อย่างถูกต้อง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มิจฉาชีพอาจได้มาจากการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล
- มีการอ้างว่าคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี หรือมีปัญหาเกี่ยวกับบัญชีธนาคารที่ผิดปกติ
- สร้างสถานการณ์กดดัน หรือข่มขู่เพื่อให้คุณเกิดความกลัวและยอมทำตามคำสั่งของพวกเขา
- หลอกให้คุณโอนเงินทั้งหมดที่มีอยู่ในบัญชีเพื่อ “ตรวจสอบ” หรือเพื่อ “พิสูจน์ความบริสุทธิ์” โดยอ้างว่าหากบริสุทธิ์จะคืนเงินให้
DSI ย้ำเตือนว่า ไม่มีหน่วยงานราชการใดๆ รวมถึง DSI ที่จะดำเนินการในลักษณะดังกล่าว นั่นคือ การโทรศัพท์หาประชาชนโดยตรงเพื่อแจ้งว่ามีคดีความ แล้วสั่งให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบ หรือเพื่อแสดงความบริสุทธิ์
ดังนั้น หากคุณได้รับโทรศัพท์ที่มีลักษณะตามที่ DSI เตือน สิ่งที่ต้องทำคือยึดหลัก “ไม่เชื่อ ไม่กลัว ไม่โอน”
และหากยังมีความสงสัย หรือต้องการตรวจสอบข้อเท็จจริง สามารถติดต่อสอบถามกับหน่วยงาน DSI ตัวจริงได้โดยตรง ผ่านช่องทางดังนี้:
- โทรศัพท์ DSI 1202 (ในเวลาราชการ)
- โทรศัพท์ AOC 1441 (ศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ สำหรับประชาชน ตลอด 24 ชั่วโมง)
การตรวจสอบกับหน่วยงานจริงก่อนดำเนินการใดๆ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยป้องกันตัวคุณเองจากการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ อย่าหลงเชื่อคำขู่ หรือคำอ้างต่างๆ และอย่ารีบโอนเงินโดยเด็ดขาด ขอให้ประชาชนทุกท่านเพิ่มความระมัดระวังในการรับโทรศัพท์จากบุคคลที่ไม่รู้จัก และแจ้งเบาะแสหากพบพฤติการณ์น่าสงสัย เพื่อช่วยกันปราบปรามกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ต่อไป