ดีเอสไอผงาดลุย ‘ฮั้วสว.’ อำนาจเจริญ เจออุปสรรคซ่อนเงื่อน! : เปิดปม ‘ต้นทาง’ ขบวนการรวมโผทั่วประเทศ?

ประเด็นร้อนเกี่ยวกับการสอบสวนคดีพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) หรือ ดีเอสไอ ในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ เกี่ยวข้องกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ยังคงเป็นที่จับตา หลังมีรายงานลับจากผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ส่งถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย ระบุถึงการเคลื่อนไหวของบุคคลที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เข้าไปสอบสวนเชิงบังคับอดีตผู้สมัคร สว. ในพื้นที่ จนนำมาสู่การชี้แจงจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ออกมาชี้แจงทันที ยืนยันว่า เป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอตัวจริงที่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย โดยเป็นการสอบสวนพยานอย่างเปิดเผยและถูกต้อง พยานดังกล่าวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่มีการขู่บังคับใดๆ พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังได้เน้นย้ำว่า ดีเอสไอรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษตามอำนาจทางกฎหมาย ใครก็ตามที่ขัดขวางกระบวนการทำงานอาจมีโทษถึงจำคุก

ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นในจังหวัดอำนาจเจริญ สร้างข้อสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว และเหตุใดการทำงานของดีเอสไอจึงถูกรายงานในลักษณะดังกล่าวจากหน่วยงานในพื้นที่ คำตอบที่น่าสนใจถูกเปิดเผยจาก พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และแกนนำกลุ่ม สว.สำรอง ที่ระบุว่า นักการเมืองในจังหวัดอำนาจเจริญรายหนึ่ง คือแกนหลักคนสำคัญในขบวนการฮั้ว สว. ระดับประเทศ

พล.ต.ท.คำรบ ระบุว่า ขบวนการฮั้ว สว. ที่มีบุคคลในอำนาจเจริญเป็นหนึ่งในแกนนำนั้น มีการร่วมมือกับข้าราชการหลายฝ่าย มีการระดมคนเข้ามาสมัครคัดเลือก สว. จัดระบบการบริหารจัดการ แบ่งกลุ่มดูแลในแต่ละอำเภออย่างชัดเจน พร้อมจัดเตรียมค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่น่าสนใจคือ พล.ต.ท.คำรบ ได้ย้ำว่า “บิ๊กการเมือง” ในอำนาจเจริญรายนี้ เป็นผู้ที่รวมโผรายชื่อเครือข่ายผู้สมัคร สว. ทั่วประเทศ เพื่อส่งต่อให้กับ “ตัวการใหญ่” ของขบวนการฮั้ว สว. นี้เอง

ข้อมูลดังกล่าว ทำให้เข้าใจได้ว่า เหตุใดจึงเกิดปฏิกิริยาต่อการทำงานของดีเอสไอในพื้นที่อำนาจเจริญ เพราะพื้นที่นี้อาจเป็นเหมือนหนึ่งใน “ต้นทาง” สำคัญของขบวนการฮั้ว สว. ระดับชาติ

ขณะเดียวกัน การรับฟังข้อมูลจากฝ่ายดีเอสไอเอง ก็พบว่า การลงพื้นที่สอบสวนพยานในจังหวัดอำนาจเจริญนั้น มีอุปสรรคหลายด้าน เจ้าหน้าที่ดีเอสไอไม่ได้ลงไปบังคับพยาน แต่พยานกลับถูกข่มขู่คุกคามจากฝ่ายที่พยายามปกปิดข้อมูลเรื่องการฮั้ว สว. การขอความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่บางหน่วยงานในพื้นที่ก็เป็นไปอย่างไม่ราบรื่น โดยมีรายงานว่า หัวหน้าหน่วยราชการบางแห่งไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก เพราะ “ท่านรอง” ที่มีอำนาจใหญ่กว่าผู้บังคับบัญชา คอยแทรกแซงหรือขัดขวางอยู่เบื้องหลัง

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีอุปสรรค แต่ภาพรวมของการดำเนินคดีฮั้ว สว. ดูเหมือนจะเดินหน้าไปมาก พนักงานสอบสวนร่วมระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และดีเอสไอ มีมติสรุปคดีเพื่อเอาผิดผู้สมัคร สว. ที่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งแล้ว และกำลังทยอยออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในเร็วๆ นี้

หลังจากนี้อีกระยะหนึ่ง สำนวนคดีอาญาในส่วนของดีเอสไอ ก็จะสรุปตามมาเช่นกัน โดยจะครอบคลุมข้อหาที่รุนแรงขึ้น เช่น ความผิดฐานฟอกเงิน และความผิดฐานอั้งยี่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับขบวนการอาชญากรรมที่มีการจัดตั้ง

ในช่วงเวลานี้ เริ่มมีข่าวคราวว่า ผู้สมัคร สว. สำรองที่อยู่ในบัญชีรายชื่อสำรอง เริ่มมีการเตรียมความพร้อมและเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก เพื่อเตรียมลงมาทำหน้าที่แทนตัวจริงที่อาจต้องเผชิญกับคดีความในอนาคตอันใกล้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *