ดีเอสไอยันเดินหน้าสอบคดีฮั้ว สว. แม้ รมว.ยุติธรรม ถูกพักงาน ชี้แยกส่วนบริหาร ไม่กังวล สว.ฟ้องกลับ
ดีเอสไอยืนยัน การสืบสวนสอบสวนคดีฟอกเงินและอั้งยี่ กรณีฮั้วเลือก สว. ยังคงเดินหน้าต่อไปตามปกติ แม้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม จะถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลดีเอสไอชั่วคราว พร้อมยืนยันแยกส่วนการบริหารกับคดี และไม่กังวลหาก สว. จะดำเนินคดีกลับ
วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 1 อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะโฆษกดีเอสไอ ได้เปิดเผยถึงกรณีที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ถูกคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในส่วนกำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ชั่วคราว สืบเนื่องจากกรณีที่เกี่ยวข้องกับคดีฮั้วการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ปี 2567
พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า การที่รัฐมนตรีฯ ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับบทบาทใน 2 ส่วน คือ บทบาทด้านการบริหาร ในฐานะผู้กำกับดูแล และบทบาทในฐานะรองประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ (บอร์ด กคพ.)
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ต.วรณัน ยืนยันว่า กระบวนการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ เป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่ได้เกี่ยวโยงหรือขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีโดยตรง ดังนั้น คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวจึงไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของดีเอสไอในส่วนของคดีความ เนื่องจากพยานหลักฐานยังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน ทุกอย่างยังคงต้องดำเนินไปตามปกติ
โฆษกดีเอสไอ กล่าวต่อไปว่า หลักการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ คือ การรับฟังข้อมูลจากทุกฝ่าย เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนที่สุดว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ส่วนเรื่องความผิดและผู้กระทำผิดนั้น เป็นเรื่องที่จะพิจารณาในภายหลัง ส่วนประเด็นที่สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. บางส่วน เริ่มมีการเคลื่อนไหวเพื่อดำเนินคดีกลับต่อดีเอสไอนั้น พ.ต.ต.วรณัน มองว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานรัฐได้ และดีเอสไอไม่รู้สึกกังวลในประเด็นนี้
พ.ต.ต.วรณัน ย้ำชัดเจนว่า ต้องแยกเรื่องการบริหารที่รัฐมนตรีกำกับดูแล ออกจากเรื่องการดำเนินคดี ซึ่งเป็นคนละส่วนกัน และดีเอสไอยังคงเดินหน้าในภารกิจการกำกับดูแลคดีฟอกเงินและคดีอั้งยี่ ซึ่งเป็นภารกิจปกติที่ได้รับมอบหมายตามกฎหมาย ส่วนความคืบหน้าเฉพาะของคดีนี้ ต้องรอการแจ้งจากคณะทำงานที่รับผิดชอบโดยตรงอีกครั้ง
เมื่อถูกถามถึงข้อกังวลว่าดีเอสไอจำเป็นต้องลดบทบาทตัวเองลงหรือไม่ หลังจากที่ สว. บางส่วนมองว่าดีเอสไออาจเข้าไปแทรกแซงกระบวนการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ต.ต.วรณัน ยืนยันว่า ดีเอสไอยังคงใช้กระบวนการสอบสวนที่เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายทุกประการ และไม่ได้ลดบทบาทการทำงานลง