DSI ชี้คืบหน้าคดี ‘ตึก สตง.ถล่ม’ พบ 28 วิศวกรอ้างถูกปลอมลายเซ็นคุมงาน เร่งสอบปมวัสดุ-ออกแบบ

กรุงเทพฯ – ความคืบหน้าการสอบสวนคดีอาคารถล่มภายในสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) บริเวณซอยอารีย์สัมพันธ์ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เป็นผู้รับผิดชอบการสอบสวน ได้มีความคืบหน้าที่สำคัญ โดยเฉพาะประเด็นการตรวจสอบเอกสารและสอบปากคำกลุ่มวิศวกรผู้ควบคุมงาน

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยถึงการเข้าตรวจค้นและยึดเอกสารจากไซต์งานก่อสร้างตึก สตง. จำนวน 121 ลัง ว่า หลังจากที่ได้ร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมืองทำการตรวจเอกสารครบทุกลังแล้ว พบว่าเอกสารเกือบทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกับสำนวนคดี โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก คือ เอกสารกิจการร่วมค้า (PKW) ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง การสั่งซื้อวัสดุอุปกรณ์ และกระบวนการก่อสร้างทั้งหมด, เอกสารของผู้ควบคุมงานและรายละเอียดการแก้ไขแบบ และเอกสารของ สตง. ในฐานะเจ้าของโครงการ เอกสารเหล่านี้จะช่วยให้พนักงานสอบสวนเห็นภาพรวมของกระบวนการก่อสร้างตั้งแต่ต้นจนจบ

พ.ต.ต.วรณัน กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้ ดีเอสไอจะนำเอกสารที่ได้มาพิจารณารายละเอียดอย่างถ่องแท้ ก่อนจะเรียกเจ้าของเอกสารและพยานบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนพยานหลักฐานที่มีอยู่ การสอบสวนยังคงมุ่งเน้นการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ทั้งกรมโยธาธิการและผังเมือง, กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.), สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ในการรวบรวมพยานหลักฐานทุกประเภท ทั้งนี้ ดีเอสไอได้ประสานกรมโยธาธิการฯ ขอให้คงสภาพปล่องลิฟท์ไว้ก่อน เพื่อให้ดีเอสไอเข้าไปเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติม เนื่องจากจุดดังกล่าวมีความสำคัญและมีรายละเอียดที่ต้องตรวจสอบมาก

ประเด็นสำคัญที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างเร่งด่วนคือ คุณภาพของวัสดุหลักในการก่อสร้าง ได้แก่ ปูนคอนกรีตและเหล็ก เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่าการถล่มของอาคารเกิดจากวัสดุไม่ได้มาตรฐาน หรือมีความผิดพลาดในการออกแบบก่อสร้างหรือไม่ นอกจากนี้ กองคดีคุ้มครองผู้บริโภคจะขอความเห็นจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมเกี่ยวกับประเด็น ‘ฝุ่นแดง’ ว่ามีความเชื่อมโยงกับคุณภาพเหล็กที่ใช้ในโครงการหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนในประเด็นนี้

ส่วนความคืบหน้าในการสอบปากคำวิศวกรผู้มีรายชื่อและลายเซ็นปรากฏในเอกสารควบคุมงาน ภายใต้กิจการร่วมค้า PKW จากหมายเรียกทั้งหมด 40 หมาย (แบ่งสอบวันละ 10 ราย ระหว่างวันที่ 29 เมษายน ถึง 2 พฤษภาคม 2568) ได้มีวิศวกรเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว 36 ราย ซึ่งผลการสอบปากคำแบ่งเป็นสองกลุ่มหลัก:

  • ยอมรับว่าเซ็นควบคุมงานจริง: จำนวน 8 ราย
  • ให้การว่าถูกปลอมลายเซ็น: จำนวน 28 ราย

จากข้อมูลนี้ ยังมีวิศวกรอีก 4 ราย ที่ไม่เข้าพบพนักงานสอบสวนตามนัดหมาย นอกจากนี้ ยังมีวิศวกรอีก 2 ราย คือ นายสมเกียรติ ชูแสงสุข และนายชัยฤทธิ์ (สงวนนามสกุล) ที่เข้าพบพนักงานสอบสวนก่อนมีหมายเรียกพยาน ดังนั้น เมื่อรวมวิศวกรที่มีชื่อปรากฏในเอกสารการควบคุมงานตึก สตง. ทั้งหมด 51 ราย พบว่าจนถึงขณะนี้ มีวิศวกรเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วรวม 38 ราย ยังคงเหลือวิศวกรอีก 13 ราย ที่ดีเอสไอจะเร่งประสานให้เข้าพบพนักงานสอบสวนภายในสัปดาห์หน้า

มีรายงานว่า พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เตรียมจะแถลงข่าวสรุปความคืบหน้าการสอบสวนในเบื้องต้นให้สาธารณชนทราบอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะกำหนดวันแถลงข่าวอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ขณะเดียวกัน คณะพนักงานสอบสวนยังคงดำเนินการสอบปากคำนายสมชาย ทรัพย์เย็น วิศวกรผู้จัดการโครงการของกิจการร่วมค้า PKW ซึ่งมีชื่อในการลงนามปรับแก้แบบ Core Lift โดยการสอบปากคำคาดว่าจะใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากมีประเด็นที่ต้องซักถามอย่างละเอียดจำนวนมาก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *