กรุงเทพฯ — กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดเผยการสืบสวนพบว่า China Railway No. 10 (Thailand) ผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินที่ถล่ม ถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีการใช้บุคคลสัญชาติไทย 3 รายเป็นนอมินีเพื่อปกปิดความเป็นเจ้าของต่างชาติ ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2561 ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท

ข้อมูลนี้ถูกเปิดเผยในการประชุมสืบสวนคดีพิเศษซึ่งมีพล.ต.อ.ทวีศักดิ์ สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานร่วมกับ พล.ต.ท.ยุทธนา แพรดำ อธิบดี DSI และพ.ต.อ.สุรวุฒิ รังใส รองอธิบดี พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 36 คน เมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา

การประชุมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นชาวไทยใน China Railway ได้แก่ นายโสภณ มีชัย ถือหุ้น 40.7997%, นายประจวบ ศิริเกศ ถือหุ้น 10.2% และ นายมนัส ศรีอนันต์ ถือหุ้น 0.0003%

DSI จะเรียกตัวบุคคลทั้งสามมาสอบปากคำ นอกจากนี้ยังพบว่าบริษัทใช้ที่อยู่เดียวกันกับบริษัทอื่นในเครือข่ายอีก 8 แห่ง ซึ่งร่วมกันได้รับงานจากรัฐบาลอย่างน้อย 27 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปยังบ้านพักของนายประจวบในอำเภอโพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด แต่พบเพียงภรรยาของเขาเท่านั้น ซึ่งให้การว่าสามีมีรายได้น้อย ทำงานเป็นแรงงานก่อสร้างด้วยเงินเดือนเพียงเดือนละกว่า 10,000 บาทเท่านั้น เจ้าหน้าที่ระบุว่ารายได้นี้ไม่สอดคล้องกับการเป็นผู้ถือหุ้นในหลายนิติบุคคล ส่อเค้านอมินี ขณะเดียวกันก็กำลังตามหาตัวนายโสภณและนายมนัส

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมยืนยันว่าไม่สามารถโทษแผ่นดินไหวในเมียนมาได้สำหรับการถล่มของอาคาร โดยชี้ให้เห็นว่าไทยมีพื้นที่กว่า 320 ล้านไร่ แต่มีเพียงอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินที่ตั้งบนพื้นที่ประมาณ 11 ไร่เท่านั้นที่ถล่ม เจ้าหน้าที่จะเน้นสืบสวน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ พยานบุคคล เอกสารหลักฐาน และหลักฐานทางกายภาพ

อธิบดี DSI เปิดเผยเพิ่มเติมว่า นอกจากข้อหานอมินีแล้ว ยังมีการสอบสวนการประมูลในลักษณะร่วมกันยื่นข้อเสนอราคาตามกฎหมายว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐด้วย โดยเจ้าหน้าที่ต้องพิสูจน์ว่าผู้ถือหุ้นไทยปกปิดความเป็นเจ้าของต่างชาติหรือไม่

ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังจัดทำผังโครงสร้างบริษัทร่วมทุนที่เกี่ยวข้องกับ China Railway และอีก 11 กิจการ โดยเริ่มจากบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งชนะการประมูลก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน

DSI ให้ความสำคัญกับคดีนอมินีเป็นลำดับแรก โดยกำลังตรวจสอบสัญญาทั้ง 29 ฉบับที่ China Railway ได้รับระหว่างปี 2562-2567 รวมถึงอาคาร เส้นทางคมนาคม และโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา เฟส 1 มูลค่า 9,348 ล้านบาท

ส่วนกรณีบริษัท ซิน เค หยวน จำกัด อธิบดี DSI ระบุว่าจะตรวจสอบการจัดส่งเหล็กให้อาคารที่ถล่ม หลังจากกระทรวงอุตสาหกรรมพบว่าผลิตภัณฑ์บางส่วนไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม โดยปัญหาฝุ่นแดงในผลิตภัณฑ์เหล็กอาจเกี่ยวข้องกับใบกำกับภาษีปลอมและการละเมิดมาตรฐานอุตสาหกรรม ซึ่ง DSI จะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป