สมุทรปราการ – เรื่องราวสุดสะเทือนใจที่ถูกนำเสนอผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง ‘อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6’ ได้เปิดเผยถึงคำร้องขอความเป็นธรรมจากผู้ปกครองของเยาวชนหญิงวัย 15 ปี รายหนึ่ง ซึ่งต้องมาจบชีวิตลงอย่างกะทันหัน จากอุบัติเหตุถูกรถกระบะที่คนขับอยู่ในอาการมึนเมาพุ่งชน โดยทางครอบครัวผู้เสียชีวิตร้องเรียนว่า คู่กรณียังคงลอยนวลและไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ ขณะที่การดำเนินการทางกฎหมายยังคงล่าช้าและติดต่อคู่กรณีได้ยาก

ผู้เป็นแม่ของ น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียชีวิต เล่าด้วยความปวดร้าวว่า ลูกสาวของเธอกำลังมีอนาคตที่สดใส กำลังจะขึ้นศึกษาต่อในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เป็นเด็กเรียนเก่งและมีความตั้งใจสูง เทอมล่าสุดเพิ่งได้เกรดเฉลี่ย 3.96 และมีความฝันที่อยากจะเป็นแพทย์ แต่ความฝันทั้งหมดต้องพังทลายลงในวัยเพียง 15 ปี จากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันนี้

อุบัติเหตุสะเทือนใจเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.00 น. ขณะที่ลูกสาวของเธอกำลังเดินทางกลับบ้านในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ระหว่างทางได้มีรถกระบะคันหนึ่งขับขี่โดยผู้ที่อยู่ในอาการมึนเมา ได้ขับกินเลนเข้ามาในช่องทางของลูกสาว เป็นเหตุให้เกิดการชนอย่างรุนแรง น้องเอได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที

หลังเกิดเหตุ น้องเอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการอย่างเร่งด่วน จากการตรวจร่างกายและสแกนสมอง แพทย์พบว่ากะโหลกศีรษะของน้องแตก และมีเลือดออกในสมองเป็นจำนวนมาก แม้แพทย์จะพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่น้องก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ และได้เสียชีวิตลงในวันที่ 14 เมษายน 2568 สร้างความโศกเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้งให้กับครอบครัว ญาติได้นำร่างของน้องไปบำเพ็ญกุศลที่วัดแพรกษาเป็นเวลา 3 คืน ก่อนจะมีพิธีฌาปนกิจในวันที่ 19 เมษายน 2568

สิ่งที่ทำให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตรู้สึกคับแค้นใจและไร้ซึ่งความหวังคือ ท่าทีของคู่กรณี ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะคันที่ก่อเหตุ ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุจนถึงวันที่ 2 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันที่เรื่องนี้ถูกนำมาเผยแพร่ คนขับกระบะรายนี้ยังไม่ถูกดำเนินคดี หรือแม้แต่เข้าห้องขัง ยังคงใช้ชีวิตและไปทำงานได้ตามปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ทางครอบครัวพยายามนัดหมายเพื่อพูดคุยถึงเรื่องความรับผิดชอบและการเยียวยา แต่คู่กรณีกลับบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด อ้างว่าจะให้ร้อยเวรเจ้าของคดีเป็นผู้โทรนัดหมายเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อร้อยเวรโทรไป คู่กรณีกลับไม่รับสาย และขณะนี้ทางครอบครัวก็ไม่สามารถติดต่อคู่กรณีได้เลย

ด้วยเหตุนี้ ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจึงยืนยันที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด จะไม่มีการยอมความใดๆ ทั้งสิ้น โดยให้เหตุผลว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากความมักง่ายและความประมาทของคนขับ ที่ตัดสินใจดื่มแอลกอฮอล์แล้วยังคงขับรถ ซึ่งการกระทำดังกล่าวได้พรากชีวิตของเด็กสาวผู้มีอนาคตสดใส กำลังจะก้าวเข้าสู่รั้วมหา’ลัยและทำตามความฝันของตัวเอง ครอบครัวเรียกการกระทำเช่นนี้ว่า เป็นการกระทำของ ‘ขยะสังคม’ ที่เมาแล้วยังกล้ามาขับรถ สร้างความเดือดร้อนและสูญเสียให้กับผู้อื่น

ครอบครัวผู้เสียชีวิตวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดการดำเนินคดี และขอให้สังคมช่วยเป็นกระบอกเสียง เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมให้กับลูกสาวอันเป็นที่รักที่ต้องมาจากไปก่อนวัยอันควร