กรุงเทพฯ – เมื่อเวลา 20.30 น. ของวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ และ พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 (ผบก.น.8), พ.ต.อ.ดุสิต วาลีประโคน รอง ผบก.น.8, พ.ต.อ.โชติช่วง รัศมี ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 8 (ผกก.สส.บก.น.8), พ.ต.ท.บุญฤทธิ์ เสียงใส, พ.ต.ท.อชิรเวชชย์ สุพรรณเภสัช, และ พ.ต.ท.ณรรฐพงษ์ มัคเจริญ รอง ผกก.สส.บก.น.8 ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ

ภายใต้การสั่งการของ พ.ต.ต.ทรงผล นาคชำนาญ สารวัตร กก.สส.บก.8 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.8 ได้ร่วมกันจับกุม นายทศพล อายุ 28 ปี ผู้ต้องหารายสำคัญในเครือข่ายยาเสพติด พร้อมของกลางจำนวนมาก ประกอบด้วย ยาไอซ์ จำนวน 7 กิโลกรัม, คีตามีน (ยาเค) จำนวน 42 กิโลกรัม, โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และรถยนต์ที่ใช้ในการรับและเก็บซ่อนยาเสพติด จำนวน 2 คัน การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นที่กลางซอยรามคำแหง 21 แยก 3 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 06.00 น. ที่ผ่านมา

การสืบสวนขยายผลเริ่มขึ้นจากกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบถึงเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ที่มีพฤติกรรมลักลอบกระจายยาเสพติดจำนวนมากในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยใช้บริเวณซอยรามคำแหง 21 แยก 3 เป็นแหล่งซุกซ่อนและกระจายยาเสพติด ซึ่งเครือข่ายนี้จะรับยาเสพติดล็อตใหญ่มาพักไว้ แล้วทยอยกระจายให้กับผู้ค้ารายย่อยในรูปแบบของการนำยาเสพติดไปซุกซ่อนไว้ในรถยนต์ โดยมีนายทศพล อายุ 28 ปี เป็นผู้ดูแลและรับหน้าที่จัดส่งยาเสพติดให้กับลูกค้า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.8 ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของนายทศพลฯ อย่างใกล้ชิด

จนกระทั่งในวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 05.00 น. เจ้าหน้าที่พบเห็นนายทศพลฯ ขับรถยนต์เข้ามาในบริเวณที่เกิดเหตุ จึงเชื่อว่าภายในรถยนต์คันดังกล่าวอาจมีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเพื่อทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นรถยนต์คันแรกพบ คีตามีน (ยาเค) จำนวน 35 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาและควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางกลับมายังกองกำกับการสืบสวนนครบาล 8 เพื่อจัดทำบันทึกจับกุม

จากการซักถามและขยายผลจากข้อความในแอปพลิเคชันไลน์ที่เกี่ยวกับการสั่งให้นำยาเสพติดไปเก็บซุกซ่อนในรถยนต์คันอื่น นายทศพลฯ ให้การยอมรับว่ากลุ่มของตนเองยังมีรถยนต์ตู้ สีขาว อีก 1 คัน ที่ใช้เก็บซุกซ่อนยาเสพติดจอดอยู่บริเวณใกล้เคียงจุดที่ถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำตัวนายทศพลฯ ไปทำการตรวจค้นรถยนต์ตู้คันดังกล่าว พบ ยาไอซ์ จำนวน 7 กิโลกรัม และ คีตามีน (ยาเค) จำนวน 7 กิโลกรัม

รวมของกลางที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดคือ ยาไอซ์ จำนวน 7 กิโลกรัม และคีตามีน จำนวน 42 กิโลกรัม

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายทศพลฯ ในความผิดฐาน “จำหน่าย โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ยาไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน และจำหน่าย โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน”

หลังจากจัดทำบันทึกจับกุมที่ กก.สส.บก.น.8 แล้ว ผู้ต้องหาพร้อมของกลางได้ถูกนำส่งพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมยังคงดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวในข้อหา สมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด, ฟอกเงิน และประสานกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อดำเนินการตามมาตรการตรวจยึดทรัพย์สินและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.