โหดเหี้ยม! รวบทาสยาบุกบ้านยาย 80 คลุมหัวทำร้าย หวังชิงทรัพย์ โดน 4 ข้อหาหนัก
พะเยา – สุดโหด! รวบหนุ่มทาสยาบุกเข้าบ้านยายวัย 80 ปี ใช้กระสอบคลุมศีรษะ ทำร้ายร่างกาย หวังชิงทรัพย์ ก่อนถูกตำรวจ สภ.จุน ติดตามจับกุมตัวได้ทันควัน สารภาพสิ้น อ้างเสพยาจนขาดสติ ต้องการหาเงิน ด้านตำรวจแจ้ง 4 ข้อหาหนักดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ร้อยตำรวจเอกสุภาพ โครงกาพย์ รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรจุน จังหวัดพะเยา ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายและพยายามชิงทรัพย์หญิงชรา ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 7 ตำบลลอ อำเภอจุน จังหวัดพะเยา จึงรีบนำกำลังฝ่ายสืบสวนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบกับนางสนั่น อายุ 80 ปี ผู้เสียหาย อยู่ในสภาพได้รับบาดเจ็บ โดยนางสนั่นได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ขณะที่ตนนั่งพักผ่อนอยู่บนแคร่หลังบ้าน ได้มีคนร้ายบุกเข้ามาประชิดตัวอย่างรวดเร็ว ใช้กระสอบฟางคลุมศีรษะของตนไว้จนมองไม่เห็น และใช้กำลังทำร้ายร่างกาย พร้อมทั้งพยายามดึงแขนของตนอย่างแรงจนได้รับบาดเจ็บ เพื่อไม่ให้ตนขัดขืนหรือส่งเสียงขอความช่วยเหลือ จากนั้นคนร้ายได้ทำการตรวจค้นตามตัวและบริเวณที่ตนนั่งอยู่ เพื่อหาทรัพย์สิน โดยเฉพาะกระเป๋าเงิน แต่ปรากฏว่าไม่พบทรัพย์สินมีค่าใดๆ คนร้ายจึงตกใจและรีบวิ่งหลบหนีออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว
หลังได้รับแจ้งและสอบปากคำผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.จุน ได้ลงพื้นที่แกะรอยและหาเบาะแสคนร้ายทันที จากพยานหลักฐานและการสอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ทำให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายศรีอัมพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน และมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังเข้าควบคุมตัวนายศรีอัมพรได้ที่บ้านพัก ขณะกำลังเสพยาเสพติดอยู่ จากการสอบสวนเบื้องต้น นายศรีอัมพรได้ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุได้เสพยาเสพติดเข้าไปจนขาดสติ ทำให้เกิดอาการอยากได้เงินเพื่อนำไปซื้อยาเสพติดอีก จึงตัดสินใจบุกเข้าไปก่อเหตุกับนางสนั่นที่บ้าน เพราะคิดว่าน่าจะมีทรัพย์สินอยู่
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาหนักต่อนายศรีอัมพร รวม 4 ข้อหา ได้แก่ 1. เสพยาเสพติด 2. พยายามชิงทรัพย์ 3. บุกรุกเคหสถาน และ 4. หน่วงเหนี่ยวกักขัง ก่อนจะควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป
เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของยาเสพติดที่ยังคงส่งผลกระทบต่อสังคม และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรมในพื้นที่อย่างเข้มงวดต่อไป