จบดราม่า! คนขับรถตู้ทึบสระบุรีขอโทษพ่อแม่เด็ก เคลียร์ปมเข้าใจผิดคดีลักพาตัว

สระบุรี – ปิดฉากดราม่าบนโลกโซเชียล หลังคนขับและผู้ร่วมเดินทางในรถกระบะตู้ทึบ เข้าขอโทษพ่อแม่และผู้ปกครองเด็กชาย 2 คน ที่ จ.สระบุรี ยืนยันไม่มีเจตนาลักพาตัว แค่หยอกล้อแรงไปจนเกิดความเข้าใจผิด ด้านผู้ปกครองยอมรับคำขอโทษ หลังการเจรจาไกล่เกลี่ยที่ สภ.เมืองสระบุรี

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปและข้อความเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่รถกระบะตู้ทึบ สีขาว มีชาย 3 คนบนรถ ได้ทำท่าทีคล้ายจะอุ้มเด็กชาย 2 คน ที่กำลังปั่นจักรยานอยู่ ทำให้เกิดความหวาดกลัวและเข้าใจผิดว่าเป็นแก๊งลักพาตัวเด็ก ซึ่งคนขับได้ชี้แจงภายหลังว่าเป็นการหยอกล้อเล่นกับเด็กเท่านั้น เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ จ.สระบุรี และกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันที่ 28 เมษายน 2568 (หมายเหตุ: ปรับวันที่ตามความเหมาะสมหากต้องการ) นายสุชล และ น.ส.อรณิชา ผู้ครอบครองรถกระบะคันดังกล่าว ได้พานายณัฐวุฒิ อายุ 19 ปี ผู้ขับขี่ พร้อมด้วย น.ส.แพรชมพู อายุ 37 ปี และนายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นผู้ร่วมเดินทาง เข้าพบ พ.ต.อ.สุริยะ สุดกังวาน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสระบุรี เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงขอโทษต่อสังคมที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด

หลังจากนั้น พ.ต.อ.สุริยะ สุดกังวาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสระบุรี เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กจังหวัดสระบุรี และเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ร่วมกันอำนวยความสะดวกในการพาทั้งหมดเข้าพบกับพ่อแม่และผู้ปกครองของเด็กชายทั้งสองคน เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและแสดงความเสียใจต่อการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตขึ้น

บรรยากาศในการพูดคุยช่วงแรกเป็นไปด้วยความตึงเครียด ผู้ปกครองของเด็กแสดงท่าทีไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดต่อการกระทำของผู้ก่อเหตุ แม้จะมีช่วงที่พูดจารุนแรงบ้าง แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้เป็นอย่างดี โดยผู้ปกครองเด็กยอมรับคำขอโทษในหลักการ แต่ในส่วนของคดีความนั้นยังคงต้องการพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กได้เข้าให้ความช่วยเหลือและเยียวยาทางจิตใจแก่เด็กและครอบครัวแล้ว

นายสัญญา อายุ 30 ปี ผู้ปกครองของเด็ก กล่าวว่า ตนยอมรับคำขอโทษจากผู้ก่อเหตุ แต่ในเรื่องคดีความจะต้องปรึกษาหารือกันในครอบครัวก่อน เพราะการกระทำดังกล่าวทำให้ลูกมีร่องรอยบาดเจ็บ ตนมองว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกสบายใจขึ้นมากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความสำคัญและติดตามเรื่องนี้ให้อย่างรวดเร็ว

ขณะที่นางสาวพัชชา แม่ของเด็ก กล่าวเสริมว่า ตนยอมรับคำขอโทษจากใจจริงของผู้ก่อเหตุ ในส่วนของคดีจะขอปรึกษากันก่อนเช่นกัน ยืนยันว่าการโพสต์ตามหารถไม่ได้มีเจตนาทำให้ผู้ก่อเหตุเดือดร้อนตามกระแสโซเชียลที่เข้าใจผิด

ต่อมา พ.ต.อ.สุริยะ สุดกังวาน ได้เชิญทั้งสองฝ่ายเข้าเจรจาไกล่เกลี่ยกันอีกครั้งที่ สภ.เมืองสระบุรี เพื่อหาข้อยุติสำหรับเหตุการณ์นี้ ซึ่งภายหลังการพูดคุย ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงยอมรับคำขอโทษซึ่งกันและกัน และจะไม่มีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *