ดร.สุปราณี อดีต ผจก.กองทุนฯ หนุน ‘กองทุน 200 ล้าน’ บิ๊กสุชัย ยันไอเดียดีช่วยวงการกีฬา โต้ข่าวลือซื้อเสียง

ดร.สุปราณี คุปตาสา อดีตผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ออกโรงสนับสนุนแนวคิดโครงการ ‘กองทุน 200 ล้านบาท’ ของนายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ชี้เป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมในการช่วยเหลือสมาคมกีฬาในช่วงเวลาที่ยากลำบาก พร้อมปฏิเสธข่าวลือเรื่องการใช้เงินดังกล่าวเพื่อซื้อเสียงในการเลือกตั้งคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย

ดร.สุปราณี เปิดเผยว่า เธอเห็นด้วยอย่างยิ่งกับนโยบายกองทุน 200 ล้านบาทที่นายสุชัย ได้นำเสนอในช่วงหาเสียงชิงตำแหน่งประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย แม้สุดท้ายนายสุชัยจะไม่ได้รับเลือก แต่เธอยังคงสนับสนุนและอยากให้นายสุชัยเดินหน้าทำโครงการนี้ให้เกิดขึ้นจริง

สำหรับประเด็นข่าวที่มีการพาดพิงว่า เงินจำนวน 200 ล้านบาท ถูกใช้เพื่อซื้อเสียงจากสมาคมกีฬาต่างๆ ในช่วงการเลือกตั้ง ดร.สุปราณี กล่าวปฏิเสธอย่างชัดเจนว่า หากมีการพูดถึงเช่นนั้นจริง จะถือเป็นเรื่องที่สร้างความเสียหายอย่างมากต่อนายสุชัยผู้ถูกกล่าวหา แต่ในความเป็นจริงแล้วเรื่องดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้น

“อย่างตัวดิฉันเอง ได้มีโอกาสคุยกับคุณสุชัยมาตลอด ยืนยันได้ว่าไม่มีเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด ต้องชื่นชมในสปิริตของ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ชนะเลือกตั้งแล้ว ทุกอย่างก็จบ เดินหน้าทำงานทันที จริงๆ ยังคิดเลยว่า ถ้าวงการกีฬาไทยได้ทั้ง ผศ.พิมล และคุณสุชัย มาร่วมกันทำงาน น่าจะเป็นเรื่องที่สุดยอดในวงการกีฬา ดังนั้น จึงไม่อยากเห็นใครก็ตามเอาเรื่องในแง่ลบมาต่อยอด อย่างการที่มีข่าวตีออกมาว่า คุณสุชัย ซื้อเสียง ก็ต้องบอกว่าไม่มีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นแน่นอน ส่วนการที่คุณสุชัยจะให้เงินกับสมาคมเป็นเงินบริจาค อย่างที่รักบี้และฟิกเกอร์สเก็ตได้ไป ก็ถือเป็นเรื่องที่ทำได้” ดร.สุปราณี กล่าว.

ดร.สุปราณี ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้เธอจะเข้าไปพูดคุยกับนายสุชัยอีกครั้ง เพื่อขอร้องไม่ให้ล้มเลิกโครงการนี้ ซึ่งเธอเรียกว่า ‘สปอร์นเซอร์ พูล’

เธอชี้ให้เห็นถึงสถานะปัจจุบันของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่สมาคมกีฬาต่างๆ ยังไม่ได้รับเงินสนับสนุนอย่างเต็มที่ และขั้นตอนการเบิกจ่ายก็มีความซับซ้อน ต้องผ่านการประชุมหลายรอบกว่าเงินจะไปถึงมือสมาคม ทำให้เกิดปัญหา ‘เงินค้างท่อ’ หรือการเบิกจ่ายล่าช้า

ดร.สุปราณี มองว่า การมีเงินทุนหมุนเวียน 200 ล้านบาท จากนักธุรกิจหรือภาคเอกชนที่มีความประสงค์จะให้การสนับสนุน เป็นนิมิตหมายที่ดี และคาดการณ์ว่าเงินจำนวนนี้อาจเพิ่มขึ้นได้อีกในอนาคต

ในช่วงท้าย ดร.สุปราณี แสดงความเชื่อมั่นในตัวของนายสุชัย และ ดร.มนตรี ไชยพันธุ์ ซึ่งเป็นเจ้าของไอเดียโครงการนี้ เธอยังกล่าวด้วยว่า สำหรับสมาคมกีฬาที่ไม่ได้ลงคะแนนให้นายสุชัยในการเลือกตั้ง ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นฝ่ายตรงข้ามกัน

เธอยังเรียกร้องให้คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยชุดใหม่ พิจารณานำไอเดียนี้ไปต่อยอด แต่หากไม่ได้ทำ เธอก็ขอให้นายสุชัยเดินหน้าโครงการนี้ต่อไป เพราะแตกต่างจากการให้ยืมเงินจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งทำไม่ได้ตามระเบียบ แต่โครงการลักษณะนี้สามารถทำได้ โดยมีสัญญากำหนดให้สมาคมกีฬาที่ได้รับการจัดสรรเงิน ต้องคืนให้กับกองทุนเมื่อดำเนินงานเสร็จสิ้น ซึ่งจะเป็นทางออกที่ดีในการแก้ปัญหาการเบิกจ่ายที่ล่าช้า และช่วยให้สมาคมกีฬามีที่พึ่งยามลำบากได้อย่างแท้จริง.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *