สระแก้ว – พระโสภณธรรมวงศ์ ดร. (วศก. ปญญาอักโข) เจ้าอาวาสวัดอินทรวิหาร พระอารามหลวง, เจ้าคณะแขวงวัดสามพระยา ในฐานะประธานคณะดำเนินการโครงการ “สร้างพระพุทธรูปมอบโรงเรียน โรงพยาบาล และสถานที่ราชการ” พร้อมด้วย ดร.สุชีราภรณ์ ธุวานนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ประธานอุปถัมภ์โครงการฯ ได้เดินทางไปทำพิธีมอบพระพุทธรูปประจำโรงเรียนให้กับทางโรงเรียนบ้านรัตนะ ตำบลทัพไทย อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว

โครงการดังกล่าวริเริ่มโดย พระโสภณธรรมวงศ์ (เจ้าคุณน้อย) ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2550 จากการที่ท่านพิจารณาเห็นว่า สังคมไทย โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน มีแนวโน้มที่จะเหินห่างจากพระศาสนา หันเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีและวัตถุนิยมมากขึ้น เยาวชนไม่ค่อยเข้าวัด ขณะที่พระสงฆ์มีโอกาสน้อยในการเข้าไปให้ความรู้ด้านศาสนาแก่เยาวชน อีกทั้งวัดหลายแห่งมีพระพุทธรูปจำนวนมากเกินความจำเป็น ท่านจึงมีดำริที่จะนำพระพุทธรูปไปประดิษฐานยังสถานศึกษาและหน่วยงานราชการ เพื่อให้เป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นช่องทางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุก

พระโสภณธรรมวงศ์ ได้กล่าวถึงแรงบันดาลใจในวัยเด็กว่า “ตอนสมัยเรียนชั้นประถม เราเคยถูกสอน ถูกอบรมให้เรามีความรู้ แล้วให้มีความรัก เทิดทูน 3 สถาบันหลักของไทย ได้แก่ สถาบันชาติ สถาบันศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ เราจะจำได้ว่า สีประจำโรงเรียนของเรานั้นสีอะไร ก็จะจำได้ และครูที่ทำโทษเรา เราก็จำได้ ครูที่ใจดี เราก็จำได้ แต่เราจำไม่ได้ว่า พระประจำโรงเรียน ซึ่งเป็นองค์แทนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระนามว่าอะไร อีกทั้งพระบรมฉายาลักษณ์ของสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็ไม่ค่อยได้พบเห็น” ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงได้ร่วมกับทานบดี คณะศิษยานุศิษย์ และคณะกรรมการโครงการฯ ซึ่งมี พล.อ.เรืองโรงน์ มหาศรานนท์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน ดำเนินการโครงการนี้ขึ้น

วัตถุประสงค์หลักคือ การสร้างและมอบพระพุทธรูปปางลีลา ขนาดความสูง 2.30 เมตร ซึ่งมีความหมายถึงความเจริญก้าวหน้า พร้อมด้วยเสาธงชาติ ที่ประดิษฐาน และพระบรมฉายาลักษณ์พร้อมกรอบขนาดพอเหมาะ ให้แก่โรงเรียน โรงพยาบาล สถานีตำรวจ และหน่วยงานราชการทั่วประเทศ โดยใช้งบประมาณ 500,000 บาทต่อ 1 แห่ง เพื่อให้บุคลากร นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนประชาชนที่มาติดต่อราชการ ได้มีโอกาสกราบสักการะ ระลึกถึงพระพุทธคุณ และเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวด้านจิตใจ

สำหรับการมอบในครั้งนี้ที่โรงเรียนบ้านรัตนะ จังหวัดสระแก้ว ถือเป็นองค์ที่ 63 ของโครงการฯ พระพุทธรูปที่ได้รับมอบมีพระนามว่า “พระพุทธสุริยทิพยมงคลมุนี” หรือที่รู้จักกันในนาม “หลวงพ่อมงคล” ซึ่งจะถูกประดิษฐานเป็นพระพุทธรูปประจำโรงเรียน เพื่อทำหน้าที่เป็นอนุสติ เป็นมิ่งขวัญของจิตใจ และเป็นเครื่องมือสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาสู่สังคมและเยาวชน ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญของประเทศชาติ รวมถึงเพื่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนาให้สืบต่อไปอย่างยั่งยืน.