กรมทางหลวงทุ่ม 400 ล้าน แก้ปัญหาคอขวด “พระราม 2” สร้างทางคู่ขนาน-สะพานใหม่ เริ่ม ก.ย. 68

สมุทรสาคร – นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงสถานการณ์การจราจรบนทางหลวงหมายเลข 35 หรือถนนพระราม 2 ซึ่งประสบปัญหาการจราจรหนาแน่นอย่างหนัก โดยเฉพาะบริเวณคอขวดที่ กม.39+357 (สะพานคลองขุดบ้านบ่อ) และ กม.39+987 (สะพานข้ามคลองท่าแร้ง) ในพื้นที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีช่องจราจรเพียง 3 ช่องทาง ทั้งขาเข้าและขาออก ทำให้เกิดปัญหาการชะลอตัวและรถติดสะสมเป็นระยะทางยาว

นอกจากปัญหาคอขวดเดิมแล้ว ปริมาณจราจรบนถนนพระราม 2 ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถยนต์จากโครงการก่อสร้างทางพิเศษหมายเลข 82 (M82) ที่จะไหลเข้าสู่ถนนพระราม 2 ในอนาคต ซึ่งถนนพระราม 2 เป็นเส้นทางหลักสำคัญสู่ภาคใต้ มีปริมาณการจราจรสูงถึงประมาณ 200,000 คันต่อวัน และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบเศรษฐกิจและการขนส่งของประเทศ

เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาจราจรที่เรื้อรังและรองรับปริมาณรถยนต์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต กรมทางหลวงจึงได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 400 ล้านบาท สำหรับโครงการก่อสร้างทางคู่ขนานถนนพระราม 2 ช่วงทางแยกต่างระดับบ้านแพ้ว – บ.บางน้ำวน ตั้งแต่ กม.39+000 ถึง กม.40+050 ซึ่งได้รับจัดสรรงบประมาณในปีงบประมาณ 2568 แล้ว และคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ภายในเดือนกันยายน 2568 โดยมีกำหนดระยะเวลาดำเนินการรวม 780 วัน

สำหรับรายละเอียดการก่อสร้างในโครงการนี้ จะเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการจราจรบริเวณคอขวดเป็นหลัก ประกอบด้วย:

  • ก่อสร้างสะพานใหม่: สร้างสะพานใหม่ในช่องทางคู่ขนาน จำนวนข้างละ 2 แห่ง (รวม 4 แห่ง) เพื่อข้ามคลองขุดบ้านบ่อ (ความยาว 370 เมตร) และคลองท่าแร้ง (ความยาว 350 เมตร) โดยสะพานใหม่นี้จะช่วยแบ่งเบาภาระการจราจรจากสะพานเดิมในช่องทางหลัก
  • ปรับปรุงจุดกลับรถ: ปรับปรุงจุดกลับรถใต้สะพานจำนวน 4 แห่ง เพื่อเพิ่มความสะดวกและลดปัญหาการตัดกระแสจราจรบนทางหลัก ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของปัญหาจราจรติดขัด
  • ขยายและปรับปรุงทางคู่ขนาน: ปรับปรุงทางคู่ขนานให้มีขนาด 6 ช่องจราจร (ไป-กลับ ด้านละ 3 ช่อง) โดยใช้ผิวทางคอนกรีต พร้อมก่อสร้างไหล่ทาง ทางเท้า และติดตั้งระบบระบายน้ำ เพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับปริมาณรถยนต์ ระบายรถได้อย่างรวดเร็วขึ้น และลดความแออัด

นายอภิรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า การก่อสร้างทั้งหมดจะดำเนินการในพื้นที่นอกช่องทางหลักที่มีอยู่เดิม จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการจราจรบนช่องทางหลักในระหว่างการก่อสร้าง กรมทางหลวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วางแผนการดำเนินงานอย่างรอบคอบ โดยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการจราจรเพื่อความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ทางอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างต่อเนื่องและได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

โครงการก่อสร้างทางคู่ขนานและสะพานใหม่นี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จตามกำหนด และจะสามารถช่วยเพิ่มช่องทางรองรับรถยนต์ในทิศทางขาออกได้อย่างมีนัยสำคัญ ลดปัญหาการเบียดแทรกบริเวณคอขวด และบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนพระราม 2 ช่วงดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ใช้รถใช้ถนนและระบบเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *