ทล.ทุ่ม 400 ล้าน ผ่าคอขวดพระราม 2 สร้างทางคู่ขนาน-สะพานใหม่ ยันไม่กระทบจราจรหลัก เริ่ม ก.ย. 68

กรุงเทพฯ 21 เมษายน 2568 – กรมทางหลวง (ทล.) เดินหน้าแก้ปัญหาจราจรติดขัดเรื้อรังบนถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลักสู่ภาคใต้ ด้วยการอนุมัติงบประมาณ 400 ล้านบาท สำหรับโครงการก่อสร้างทางคู่ขนานและสะพานใหม่บริเวณคอขวดสำคัญ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ภายในเดือนกันยายน 2568 โดยยืนยันว่าการก่อสร้างจะไม่ส่งผลกระทบต่อการจราจรบนช่องทางหลักที่ใช้งานอยู่

นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์การจราจรบนทางหลวงหมายเลข 35 หรือถนนพระราม 2 ว่า ปัจจุบันประสบปัญหาการจราจรหนาแน่นอย่างมาก โดยเฉพาะบริเวณคอขวดที่ สะพานข้ามคลองขุดบ้านบ่อ (กม.39+357) และ สะพานข้ามคลองท่าแร้ง (กม.39+987) ซึ่งอยู่ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีช่องจราจรหลักเพียง 3 ช่องทางทั้งขาเข้าและขาออก ทำให้รถยนต์เคลื่อนตัวได้ช้าและเกิดการสะสมเป็นทางยาว

นอกจากนี้ ปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นจากโครงการก่อสร้างทางพิเศษหมายเลข 82 (M82) ที่จะเชื่อมต่อเข้าสู่ถนนพระราม 2 ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น โดยถนนพระราม 2 ถือเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ที่มีปริมาณการจราจรสูงถึงประมาณ 200,000 คันต่อวัน และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภาคเศรษฐกิจและการขนส่งของประเทศ

เพื่อแก้ไขปัญหาคอขวดดังกล่าวและรองรับปริมาณจราจรที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต กรมทางหลวงจึงได้อนุมัติงบประมาณ 400 ล้านบาท สำหรับโครงการก่อสร้างทางคู่ขนานถนนพระราม 2 สายทางแยกต่างระดับบ้านแพ้ว – บ้านบางน้ำวน ช่วง กม.39+000 – กม.40+050 ซึ่งได้รับจัดสรรงบประมาณประจำปี 2568 แล้ว และคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ภายใน เดือนกันยายน 2568 โดยมีระยะเวลาดำเนินการประมาณ 780 วัน

รายละเอียดการก่อสร้างที่สำคัญในโครงการนี้ ประกอบด้วย:

  • การก่อสร้างสะพานใหม่ในช่องทางคู่ขนาน ข้างละ 2 แห่ง (รวม 4 แห่ง) เพื่อข้ามคลองขุดบ้านบ่อ (ความยาวประมาณ 370 เมตร) และข้ามคลองท่าแร้ง (ความยาวประมาณ 350 เมตร) การก่อสร้างสะพานใหม่นี้จะช่วยเพิ่มช่องจราจรบริเวณคอขวด แก้ไขปัญหาการเบียดและลดความแออัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การปรับปรุงจุดกลับรถใต้สะพานจำนวน 4 แห่ง เพื่อเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการกลับรถ ลดปัญหาการตัดกระแสจราจรบนทางหลัก
  • การปรับปรุงทางคู่ขนานเดิมให้มีขนาด 6 ช่องจราจร (ไป-กลับ) ด้วยผิวทางคอนกรีต พร้อมก่อสร้างไหล่ทางและทางเท้า เพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับปริมาณรถ และช่วยในการระบายรถให้คล่องตัว รวมถึงการติดตั้งระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพ

นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย ยืนยันว่า การก่อสร้างทั้งหมดจะดำเนินการในพื้นที่ที่อยู่นอกช่องทางหลักเดิม ซึ่งได้มีการเตรียมพื้นที่ไว้แล้ว จึง ไม่ส่งผลกระทบต่อการจราจรบนช่องทางหลัก ที่ประชาชนใช้อยู่ในปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ กรมทางหลวงได้วางแผนการทำงานและบริหารจัดการจราจรอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้ใช้ทางให้น้อยที่สุด และให้ความสำคัญสูงสุดกับการบริหารจัดการจราจรในระหว่างการก่อสร้าง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างต่อเนื่อง

โครงการก่อสร้างทางคู่ขนานและสะพานใหม่นี้ จึงนับเป็นมาตรการสำคัญที่จะช่วยเพิ่มช่องทางรองรับปริมาณรถขาออกสู่ภาคใต้ บรรเทาปัญหาการเบียดแทรก และลดความแออัดบริเวณคอสะพานได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้ใช้รถใช้ถนน และสนับสนุนการขนส่งสินค้าซึ่งมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *