กรมการจัดหางาน กวาดล้างแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย ปี 68 ตรวจสอบกว่า 5 แสนคน พบทำผิด 2,575 ราย ย้ำโทษหนักแย่งอาชีพคนไทย

กรุงเทพฯ – นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานตรวจสอบแรงงานต่างชาติในช่วงปีงบประมาณ 2568 (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ถึง 18 เมษายน 2568) ว่า กรมการจัดหางานไม่ได้นิ่งนอนใจต่อกรณีที่พบแรงงานต่างชาติหลากหลายสัญชาติ ทั้งเมียนมา กัมพูชา เวียดนาม จีน รัสเซีย และอินเดีย เข้ามาทำงานแข่งขันกับคนไทยในหลายพื้นที่ เช่น ตลาดนัด ตลาดสด ร้านทำเล็บ อู่ซ่อมรถ แผงค้าขาย รถเข็น รวมถึงสถานบันเทิง ซึ่งสร้างผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยในพื้นที่เหล่านั้น

อธิบดีกรมการจัดหางาน ได้สั่งการให้ชุดเฉพาะกิจกรมการจัดหางานเร่งดำเนินการกวาดล้างแรงงานต่างชาติที่ทำงานผิดกฎหมาย ไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่กำหนดไว้อย่างเข้มงวดและเท่าเทียมกัน โดยจะใช้มาตรการลงพื้นที่สุ่มตรวจสถานประกอบการและพื้นที่เป้าหมายสำคัญทั่วประเทศโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงจังหวัดท่องเที่ยวหลักและย่านการค้าสำคัญที่มีการจ้างแรงงานต่างชาติจำนวนมาก เช่น ภูเก็ต สมุย พัทยา เชียงใหม่ เยาวราช ห้วยขวาง ปากคลองตลาด อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และตลาดนัดชื่อดังต่างๆ

สำหรับผลการตรวจสอบในปีงบประมาณ 2568 ในช่วงเวลาที่ระบุ ได้เข้าตรวจสอบสถานประกอบการที่จ้างแรงงานต่างชาติแล้วรวมทั้งสิ้น 38,734 แห่ง พบการกระทำผิดและได้ดำเนินคดีกับสถานประกอบการไปแล้ว 1,329 แห่ง ขณะที่แรงงานต่างชาติที่ถูกตรวจสอบมีจำนวนรวมสูงถึง 523,706 คน โดยส่วนใหญ่เป็นสัญชาติเมียนมา (398,493 คน) รองลงมาคือ กัมพูชา (70,371 คน) และลาว (32,983 คน) นอกจากนี้ยังมีแรงงานสัญชาติอื่นๆ อาทิ เวียดนาม จีน และสัญชาติอื่นๆ อีกรวมกว่า 22,000 คน

จากการตรวจสอบแรงงานต่างชาติจำนวนกว่า 5 แสนคน พบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายและถูกดำเนินคดีทั้งสิ้น 2,575 คน ซึ่งในจำนวนนี้ มีถึง 883 คน ที่พบว่าเข้ามาประกอบอาชีพที่สงวนไว้สำหรับคนไทย โดยกลุ่มที่พบการกระทำผิดมากที่สุดคือ สัญชาติเมียนมา (481 คน) กัมพูชา (139 คน) และลาว (109 คน) ส่วนสัญชาติอื่นๆ ที่พบการแย่งอาชีพคนไทย ได้แก่ อินเดีย เวียดนาม และจีน

นายสมชายกล่าวเพิ่มเติมว่า อาชีพที่พบคนต่างชาติเข้ามาแย่งอาชีพคนไทยมากที่สุด 4 อันดับแรก ได้แก่ งานเร่ขายสินค้า งานตัดผม งานขับขี่ยานพาหนะ และงานนวด ตามลำดับ ส่วนงานที่คนต่างชาติถูกดำเนินคดีเนื่องจากทำงานไม่ตรงตามเงื่อนไขที่ได้รับอนุญาต ได้แก่ งานขายของหน้าร้าน งานช่างก่อสร้าง และงานกรรมกร

อธิบดีกรมการจัดหางานเน้นย้ำว่า แรงงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายไทยอย่างเคร่งครัด ต้องมีเอกสารประจำตัวและใบอนุญาตทำงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย และจะต้องทำงานเฉพาะในประเภทงานที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ตลอดจนปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อห้ามที่ระบุไว้ในประกาศกระทรวงแรงงาน ซึ่งปัจจุบันมีงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำรวมทั้งสิ้น 40 งาน

“ขอเตือนไปยังแรงงานต่างชาติที่ทำงานผิดกฎหมาย ทั้งที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่ได้รับอนุญาต จะมีบทลงโทษตามกฎหมาย โดยมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 ถึง 50,000 บาท และจะถูกส่งกลับประเทศต้นทาง รวมถึงถูกห้ามขอใบอนุญาตทำงานในประเทศไทยเป็นระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับโทษ” นายสมชายกล่าว

สำหรับนายจ้างหรือสถานประกอบการที่จ้างคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต หรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ จะมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หากกระทำผิดซ้ำจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 ถึง 200,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน และที่สำคัญคือจะถูกห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นระยะเวลา 3 ปี

กรมการจัดหางานยืนยันว่าจะยังคงดำเนินการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในตลาดแรงงานไทย และป้องกันไม่ให้แรงงานต่างชาติเข้ามาแย่งอาชีพที่สำคัญของคนไทย.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *