แพทย์แนะทางออกชายวัย 78 ป่วยโรคหัวใจ-เบาหวาน แต่ยังต้องการมีเพศสัมพันธ์

กรณีชายสูงวัยอายุ 78 ปี มีโรคประจำตัวทั้งเบาหวานและโรคหัวใจที่เคยทำบายพาสมาแล้ว 3 ปี แต่ยังมีความต้องการทางเพศ โดยพบปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัวเต็มที่ ทำให้เกิดอุปสรรคในการมีเพศสัมพันธ์กับคู่รักวัย 53 ปี ล่าสุดแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้ยาเฉพาะกิจและทางเลือกอื่นๆ ในการรักษา

จากจดหมายสอบถามของ “ต่าย” ผู้ป่วยชายวัย 78 ปี ที่มีโรคประจำตัวคือเบาหวานมา 11 ปี และโรคหัวใจที่เคยทำบายพาสเมื่อ 3 ปีก่อน ปัจจุบันต้องทานยาควบคุมน้ำตาล ยาต้านการแข็งตัวของเลือด และยาลดความดันเป็นประจำ แต่ยังมีความต้องการทางเพศและประสบปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัว

แพทย์ระบุว่าโดยทั่วไปการเสียชีวิตจากการใช้ยาเฉพาะกิจมักเกิดในผู้ป่วยโรคหัวใจที่ใช้ยาในกลุ่มไนเตรต ซึ่งเป็นข้อห้ามใช้ร่วมกับยาเฉพาะกิจ โดย 70% ของผู้เสียชีวิตมีปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง สูบบุหรี่ เบาหวาน โรคอ้วน หรือมีประวัติโรคหัวใจมาก่อน

สำหรับกรณีของต่าย แม้จะควบคุมอาการโรคหัวใจได้ดีแล้ว แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงหลายประการ จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาเฉพาะกิจทุกครั้ง และไม่ควรซื้อยาใช้เองโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์

แพทย์แนะนำว่าปัจจุบันมีวิธีการรักษาอาการอีดี (ED) สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจโดยไม่ต้องพึ่งยาเฉพาะกิจเสมอไป โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ที่ช่วยเพิ่มเส้นเลือดในองคชาต ซึ่งปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ และไม่ต้องพึ่งพาการกินยา สามารถใช้ได้ตามต้องการเมื่อต้องการมีเพศสัมพันธ์

ทางเลือกนี้ถือว่าปลอดภัยมากกว่าการใช้ยาเฉพาะกิจ และสามารถช่วยให้ผู้สูงวัยกลับมามีชีวิตทางเพศที่กระชุ่มกระชวยได้อีกครั้ง โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงต่อสุขภาพหัวใจ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *