กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา ณ โรงแรม LILIT BANG LUMPHU (ลิลิต บางลำภู) ซึ่งจัดงานฉลองครบรอบ 2 ปีอย่างเป็นทางการ นักแสดงและดีเจชื่อดัง ‘ดีเจต้นหอม’ ศกุนตลา เทียนไพโรจน์ ได้เดินทางมาร่วมงาน พร้อมให้สัมภาษณ์อัปเดตหลากหลายเรื่องราวในชีวิต ทั้งการใช้โซเชียลมีเดียในมุมที่แตกต่าง ปัญหาการเดินทางไปต่างประเทศ รวมถึงแผนธุรกิจใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว

ดีเจต้นหอมเผยว่า ปัจจุบันเธอใช้โซเชียลมีเดียเป็นเหมือน ‘ที่ปรึกษาชีวิต’ ส่วนตัวที่ทรงพลังและให้คำตอบได้รวดเร็วกว่าการโทรหาเพื่อน โดยยกตัวอย่างปัญหาตั้งแต่เรื่องใกล้ตัวอย่างปลวกขึ้นบ้าน ไปจนถึงการตามหากะปิอร่อยๆ ซึ่งเมื่อโพสต์ถามในโซเชียลมีเดีย ก็จะมีผู้คนมากมายเข้ามาให้ข้อมูลและคำแนะนำอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่นาที ซึ่งแตกต่างจากการค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตแบบเดิมที่อาจไม่ตรงจุดหรือต้องมานั่งแยกแยะว่าข้อมูลใดจริงหรือปลอม การใช้โซเชียลมีเดียในลักษณะนี้ทำให้ยอดเอนเกจ (Engagement) หรือการมีส่วนร่วมในโพสต์ของเธอพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะโพสต์ที่เกี่ยวกับปัญหาชีวิตจริง ซึ่งมียอดคนดูมากกว่าโพสต์รูปสวยๆ เสียอีก เธอเห็นว่านี่คือประโยชน์ของการสร้าง ‘คอมมูนิตี้’ ในโซเชียลมีเดีย และปัญหาของเธอก็อาจเป็นประโยชน์ในการหาข้อมูลให้กับคนอื่นๆ ที่มีปัญหาเดียวกันได้ด้วย

นอกจากนี้ ดีเจต้นหอมยังได้เปิดเผยถึงปัญหาสุขภาพส่วนตัวเกี่ยวกับอาการคันบริเวณจุดซ่อนเร้น ซึ่งเป็นมานานหลายเดือน จนต้องไปปรึกษาคุณหมอ และพบว่าปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอเพียงคนเดียว ด้วยเหตุนี้เอง เธอจึงเกิดแรงบันดาลใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ เพื่อช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว โดยเธอมองว่าหากเธอสามารถแก้ปัญหาของตัวเองได้ เธอก็อยากส่งต่อสิ่งดีๆ นี้ให้กับผู้หญิงคนอื่นๆ ด้วย ผลิตภัณฑ์นี้มีลักษณะเป็นอาหารเสริมชนิดกิน เพื่อช่วยให้สุขภาพช่องคลอดแข็งแรงขึ้น ลดความเซนซิทีฟลง โดยเตรียมจะเปิดตัวในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งเธอยืนยันว่าได้ทดลองใช้เองแล้วได้ผลจริง

การเปิดใจพูดเรื่องสุขภาพผู้หญิงอย่างตรงไปตรงมานี้ ยังส่งผลให้ดีเจต้นหอมได้รับรางวัล ‘Kiki Academy’ ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับผู้หญิงที่มีความมั่นใจและกล้าพูดเรื่องปัญหาของผู้หญิงได้อย่างเปิดเผย โดยเธอเชื่อว่าการพูดคุยถึงปัญหาเหล่านี้อย่างเปิดเผยจะช่วยให้ผู้หญิงคนอื่นๆ ที่มีปัญหาคล้ายคลึงกันกล้าที่จะเผชิญหน้าและหาทางแก้ไข ไม่เก็บปัญหาไว้เพียงลำพัง

สำหรับประสบการณ์การเดินทาง ดีเจต้นหอมยังเล่าถึงปัญหาที่ต้องเผชิญกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) อยู่บ่อยครั้ง ล่าสุดคือการติด ตม. ที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน ถึงสองครั้งซ้อน โดยครั้งล่าสุดถึงขั้นโดนตรวจตอนขาออก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำพาสปอร์ตมาเทียบกับใบหน้าปัจจุบัน และมองว่าหน้าในพาสปอร์ตซึ่งทำมานานแล้วแตกต่างจากใบหน้าปัจจุบันที่ดูเด็กลงมาก จนถูกสงสัยว่าอาจเป็นการปลอมแปลงเอกสาร นอกจากนี้ เธอยังเคยเจอเหตุการณ์ที่ ตม. ฝรั่งเศส ขอดูเอกสารการเดินทางทุกอย่างรวมถึงเงินสดที่พกมา และเหตุการณ์ที่ ตม. ฟินแลนด์ ลืมประทับตราขาเข้าให้ ซึ่งเกือบทำให้มีปัญหาใหญ่ตามมา

จากประสบการณ์เหล่านี้ ทำให้ดีเจต้นหอมต้องเตรียมตัวและเตรียมเอกสารให้พร้อมทุกครั้งที่เดินทาง พยายามทำตัวไม่ตื่นเต้น แต่งกายแบบกลางๆ และที่สำคัญคือต้องสังเกตให้แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่ ตม. ได้ประทับตราขาเข้าและขาออกในพาสปอร์ตอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาที่ไม่คาดคิด ซึ่งแม้จะเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อยจนเริ่มชิน แต่เธอก็ยังคงตื่นเต้นทุกครั้งที่ต้องผ่านด่าน ตม. และยังคงใช้พาสปอร์ตเล่มเดิมที่มีวีซ่าเชงเก้นเหลืออยู่หลายปี แม้รูปหน้าจะดูไม่ตรงกับปัจจุบันเท่าไรนัก