กาญจนบุรี – คดีสะเทือนขวัญในจังหวัดกาญจนบุรีที่ราวกับถอดแบบมาจากภาพยนตร์ไทย เมื่อชายหนุ่มหน้าตาดีไปพัวพันกับผู้หญิงของมาเฟีย จนสุดท้ายต้องจบชีวิตลงอย่างน่าสยดสยอง โดยภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพช่วงเวลาที่เหยื่อถูกลากขึ้นรถได้อย่างชัดเจน

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่เข้าไปหาเห็ดในป่า พบศพของ นายวรพงษ์ ขุนศรีชาตอารักษ์ อายุ 36 ปี หรือที่รู้จักกันในนาม “ดีเจเต้” ศพถูกพบในพื้นที่หมู่บ้านทุ่งหน้านางร็อก ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี

พล.ต.ท. นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ เข้าตรวจสอบในพื้นที่ โดยต้องเดินทางจากถนนใหญ่เข้าไปอีกประมาณ 20 นาที และเดินเท้าต่ออีกประมาณ 5 นาที จึงถึงจุดที่พบศพ

จากการตรวจสอบพบว่า ศพของดีเจเต้เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน มีบาดแผลถูกยิงที่บริเวณหน้าผากจำนวน 2 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้นำศพส่งสถาบันนิติเวชเพื่อชันสูตรอย่างละเอียด

ชาวบ้านที่พบศพเป็นคนแรกเล่าว่า เมื่อสามวันก่อนหน้า ในช่วงที่ฝนตกหนัก ท้องฟ้ามืดครึ้ม เขาได้หลงทางเข้าไปในบริเวณดังกล่าวและสังเกตเห็นปลายเท้าของเหยื่อโผล่ออกมาจากชายป่า ด้วยความตกใจจึงไม่ได้เดินเข้าไปใกล้ และรีบกลับบ้านไปโดยไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่

ตลอดคืนนั้น ภาพดังกล่าวทำให้เขานอนไม่หลับ จนต้องเล่าให้ญาติฟังในที่สุด ยายของเขาซึ่งติดตามข่าวการหายตัวไปของดีเจเต้ สงสัยว่าอาจจะเป็นคนเดียวกัน เขาจึงตัดสินใจกลับไปยังจุดที่พบศพอีกครั้งในวันนี้และได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ให้เข้ามาตรวจสอบ

การหายตัวไปของดีเจเต้กลายเป็นข่าวใหญ่เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม หลังจากมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ขณะที่เขาถูกลักพาตัวไปในช่วงเช้ามืดวันที่ 14 พฤษภาคม หลังจากที่เขาทำงานเสร็จให้กับลูกค้าหญิงคนหนึ่งที่สถานบันเทิง และกำลังขับรถไปพบผู้หญิงที่ชื่อ “น้ำ” ระหว่างที่ขับรถ เขาได้คุยโทรศัพท์กับน้ำ และบอกว่ามีรถยนต์กำลังขับตามมา ก่อนจะได้ยินเสียงจอดรถและเสียงดีเจเต้ถูกลากตัวออกจากรถ

น.ส. เปรมยุภา แฟนสาวของดีเจเต้ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เธอเคยเตือนดีเจเต้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับน้ำ โดยขอให้เขาอยู่ให้ห่าง เพราะเธอได้ยินมาว่าน้ำมีความเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลที่เป็นมาเฟียค้ายาเสพติด แต่ดีเจเต้ก็ยืนยันกับเธอว่าเขาเลิกยุ่งแล้ว เธอไม่คาดคิดว่าสถานการณ์จะบานปลายถึงขั้นฆาตกรรม

นายวิเชียร พ่อของดีเจเต้ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดกาฬสินธุ์ที่อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นเวลา 12 ชั่วโมง เพื่อตามหาลูกชายที่กาญจนบุรี รู้สึกโล่งใจขึ้นบ้างที่ในที่สุดก็ได้พบศพลูกชาย เขาตั้งใจจะประกอบพิธีเชิญวิญญาณและนำศพกลับบ้านเกิดเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา ส่วนเรื่องคนร้าย เขาหวังว่าตำรวจจะสามารถจับกุมได้โดยเร็วที่สุด พร้อมกล่าวถึงความโหดเหี้ยมที่คนร้ายยิงลูกชายถึงสองนัดเข้าที่ศีรษะ

เวลา 20:00 น. ของวันที่ 18 พฤษภาคม นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ ได้พาพ่อของดีเจเต้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ลักพาตัวในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและปิดบังอำพรางสาเหตุการตาย นายวิเชียรได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทุ่มเทค้นหาดีเจเต้ แม้ว่าผลลัพธ์จะน่าเศร้าก็ตาม

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายธนเดช หนึ่งในผู้ต้องสงสัยสองคนแรกที่ถูกนำตัวมาสอบปากคำไว้ก่อนตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี คาดว่าในวันที่ 19 พฤษภาคม ตำรวจจะขออนุมัติหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการลักพาตัวและฆาตกรรมดีเจเต้อีกอย่างน้อย 3 คน