กรุงเทพฯ – กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยผลการดำเนินงานในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (กันยายน 2567 – มีนาคม 2568) สามารถสร้างมูลค่าการค้ารวมได้สูงถึง 36,921 ล้านบาท และมีผู้ประกอบการไทยได้รับประโยชน์จากการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกรวม 42,409 ราย

นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2568 กรมฯ มีแผนงานรวม 510 โครงการ กว่า 700 กิจกรรมย่อย โดยตั้งเป้าหมายสร้างมูลค่าการค้ารวมประมาณ 92,363 ล้านบาท และมีผู้ประกอบการได้รับประโยชน์รวม 261,804 ราย ซึ่งผลการดำเนินงานในช่วง 7 เดือนแรกถือว่ามีความคืบหน้าตามเป้าหมายที่วางไว้

สำหรับกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกที่ดำเนินการไปแล้วในช่วงดังกล่าว มีกิจกรรมสำคัญหลายอย่าง อาทิ การจัดงานแสดงสินค้านานาชาติในประเทศไทยถึง 4 งานใหญ่ ได้แก่ งาน Bangkok Gems and Jewelry Fair (อัญมณีและเครื่องประดับ), THAIFEX Horec Asia (ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่และธุรกิจจัดเลี้ยง), STYLE Bangkok (ไลฟ์สไตล์และแฟชั่น) และ TAPA (ยานยนต์และชิ้นส่วน) ซึ่งการจัดงานเหล่านี้ได้สร้างมูลค่าการค้ารวมถึง 11,169 ล้านบาท และมีส่วนสำคัญในการผลักดันผู้ประกอบการ SME ไทยให้สามารถเปิดตัวเข้าสู่ตลาดต่างประเทศได้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังได้สนับสนุนการจัดงานแสดงสินค้าอีก 3 งาน โดยประสานนำผู้ซื้อจากต่างประเทศมาเจรจาธุรกิจ ได้แก่ งาน Bangkok Design Week (งานออกแบบ), ADFEST (งานโฆษณา) และ Bangkok Rights Fair (ซื้อขายลิขสิทธิ์หนังสือ) ซึ่งสร้างมูลค่าการค้าเพิ่มอีกกว่า 256 ล้านบาท

อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวต่อไปว่า ในช่วงเวลาที่เหลือของปีงบประมาณนี้ กรมฯ ยังมีกำหนดจัดงานแสดงสินค้าขนาดใหญ่อีก 3 งาน ได้แก่ THAIFEX Anuga Asia 2025 (27-31 พฤษภาคม 2568), TILOG-Logistix (สิงหาคม 2568) และ Bangkok Gems and Jewelry Fair (กันยายน 2568) รวมถึงสนับสนุนการจัดงาน Bangkok International Digital Content Festival (ส่งเสริมธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์) อีก 1 งาน โดยคาดว่ากิจกรรมเหล่านี้จะช่วยสร้างมูลค่าซื้อขายและนำรายได้เข้าประเทศได้อีกไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศยังมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนมาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2568 ของกระทรวงพาณิชย์ โดยรับผิดชอบมาตรการส่งเสริมตลาดต่างประเทศ และมาตรการยกระดับสินค้าผลไม้ไทย ซึ่งผลการดำเนินงานที่โดดเด่น คือ การจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจสินค้าผลไม้สด ผลไม้แปรรูป และผลิตภัณฑ์เกษตรอื่น ๆ ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 และประสบความสำเร็จเกินเป้าหมายที่วางไว้ สามารถสร้างมูลค่าการค้าได้สูงถึง 115.287 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 4,035.045 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ กรมฯ ยังได้ร่วมคณะนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางเยือน สปป.ลาว และสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อสำรวจเส้นทางโลจิสติกส์ แก้ไขอุปสรรคทางการค้าเพื่อรองรับฤดูผลไม้ และหารือกับผู้นำเข้าสำคัญเพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายทุเรียนไทยสู่ตลาดโลก

สำหรับการส่งเสริมการขายสินค้าผลไม้ในต่างประเทศ กรมฯ ได้จัดกิจกรรมร่วมกับห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำในประเทศเป้าหมาย ซึ่งประสบความสำเร็จในการเชื่อมโยงการซื้อขายลำไยจากจังหวัดลำพูนกับผู้นำเข้าในประเทศอินโดนีเซีย คิดเป็นมูลค่า 798 ล้านบาท รวมถึงนำผลไม้ไทยเข้าร่วมงานและประชาสัมพันธ์ในงานแสดงสินค้านานาชาติที่มีชื่อเสียง เช่น Sial ฝรั่งเศส (ตุลาคม 2567), BIOFACH เยอรมนี (กุมภาพันธ์ 2568), Gulfood สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (กุมภาพันธ์ 2568), Foodex Japan ญี่ปุ่น (มีนาคม 2568) และ World Travel Market (WTM) Latin America ณ เซาเปาโล บราซิล (เมษายน 2568) โดยในช่วงที่เหลือของปี มีแผนยกระดับผลไม้ไทยในงาน THAIFEX Anuga Asia 2025 (พฤษภาคม 2568), เข้าร่วมงาน Seoul Food & Hotel เกาหลีใต้ (มิถุนายน 2568), Fine Food Australia ออสเตรเลีย (กันยายน 2568) และ China-Arab States Expo จีน (กันยายน 2568)

ในส่วนของการผลักดัน Soft Power ไทยสู่เวทีโลก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้ให้การสนับสนุน 6 อุตสาหกรรมเป้าหมายจากทั้งหมด 14 อุตสาหกรรม ได้แก่ หนังสือ เกม การออกแบบ แฟชั่น ภาพยนตร์ ละครและซีรีส์ โดยมุ่งเน้นตลาดศักยภาพ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ เยอรมนี อิตาลี ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา ซึ่งผลการดำเนินงานในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา สามารถสร้างมูลค่าการค้าได้กว่า 9,660 ล้านบาท และมีผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม Soft Power ได้รับประโยชน์รวม 323 ราย

นอกจากนี้ กรมฯ ยังมีแผนสำคัญในการยกระดับและปรับภาพลักษณ์ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ที่มอบให้กับร้านอาหารไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อน Soft Power ด้านอาหารไทย และยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยในด้านอาหารไทยสู่การเป็นครัวของโลก ตามนโยบายของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยจะมีการปรับปรุงตราสัญลักษณ์ Thai SELECT โดยเพิ่มสัญลักษณ์ “ดาวเกียรติยศรูปดอกกล้วยไม้” ซึ่งสื่อถึงความประณีตและความเป็นเอกลักษณ์ของกระบวนการปรุงอาหารไทย เพื่อนำมาใช้จัดระดับมาตรฐานของร้านอาหาร Thai SELECT โดยจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ (Kick off) ในวันที่ 30 เมษายน 2568 และจัดกิจกรรมยกระดับภาพลักษณ์อาหารไทยและตรา Thai SELECT ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 โดยกราบทูลเชิญทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นองค์ประธาน ซึ่งทูตพาณิชย์ไทยทั่วโลกจะดำเนินการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT รูปแบบใหม่นี้ควบคู่กันไป