แม่ค้าขนมไทยเดือด! หอบขนม 470 กล่องแจ้งความ ถูกหลอกไม่จ่ายเงิน | อดีตนายจ้างแฉแหลก พฤติกรรมสุดแสบ

นนทบุรี – เรื่องราวสุดเดือดร้อนของแม่ค้าขนมไทย วัย 31 ปี ที่ต้องหอบขนมกว่า 470 กล่อง เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังถูกแม่ค้าสาวรายหนึ่งในตลาดดัง ย่านนนทบุรี หลอกให้ทำขนม แต่กลับไม่ยอมจ่ายเงินค่าสินค้า ด้านอดีตนายจ้างของคู่กรณี โผล่แฉพฤติกรรมสุดแสบอีกเพียบ ทั้งแฝงตัวลอกสูตรอาหาร และชักชวนลูกจ้างร้านเดิมไปทำงานด้วย

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก น.ส.อนุสรา (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี แม่บ้านซึ่งรับทำขนมไทยขายว่า ตนได้รับความเสียหายจากการถูกหลอกให้ทำขนมไทย มูลค่าหลายพันบาท โดยเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เมื่อ น.ส.ภรณ์ชนก (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นแม่ค้าในตลาดเซฟวัน โรบินสันศรีสมาน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้ติดต่อมาทางเฟซบุ๊ก เพื่อสั่งทำขนมไทยจำนวน 470 กล่อง คิดเป็นเงิน 3,800 บาท โดยให้ น.ส.อนุสรา นำขนมไปส่งที่บูธในตลาดในวันที่ 4 พฤษภาคม

น.ส.อนุสรา เล่าว่า ได้ตกลงกับ น.ส.ภรณ์ชนก ว่าจะมีการชำระเงินค่าขนมทั้งหมดทันทีที่นำขนมไปส่ง แต่เมื่อตนนำขนมไปส่งในช่วงบ่ายวันเดียวกัน กลับถูก น.ส.ภรณ์ชนก บ่ายเบี่ยงและอ้างเหตุผลต่างๆ นานา ก่อนจะนัดให้เข้ามาเก็บเงินในเวลา 17.00 น. โดยให้ลูกจ้างของ น.ส.ภรณ์ชนก เป็นผู้รับสินค้าไว้ แต่เมื่อถึงเวลานัดหมาย 17.00 น. น.ส.อนุสรา กลับไม่สามารถติดต่อ น.ส.ภรณ์ชนก ได้อีกเลย ทำให้ตัดสินใจนำขนมทั้งหมดคืนกลับมา และเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด เพื่อดำเนินคดีกับ น.ส.ภรณ์ชนก ที่ทำให้ตนได้รับความเสียหายจากการลงทุนทำขนมไปแล้ว

ผู้เสียหายกล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่ตนหลงเชื่อ น.ส.ภรณ์ชนก เนื่องจากก่อนหน้านี้ น.ส.ภรณ์ชนก เคยสั่งทำขนมไทยกับตนแล้วครั้งหนึ่งเมื่อช่วงปลายเดือนเมษายน โดยในครั้งนั้นมีการตกลงวางมัดจำครึ่งหนึ่ง และชำระส่วนที่เหลือเมื่อส่งขนม ซึ่ง น.ส.ภรณ์ชนก ก็ดำเนินการตามนั้น ตนจึงไม่ได้เอะใจ จนกระทั่งครั้งที่สองนี้ แม้ตนจะขอให้โอนเงินมัดจำก่อน แต่น.ส.ภรณ์ชนก ก็อ้างเหตุผลและขอให้นำขนมมาส่งก่อน โดยรับปากว่าจะโอนเงินมัดจำให้ก่อนเที่ยงคืน และจะจ่ายส่วนที่เหลือทั้งหมดเมื่อส่งขนม ทำให้ตนหลงเชื่อและยอมลงทุนซื้อวัตถุดิบทำขนมไปก่อน แต่สุดท้ายก็ถูกหลอกไม่ยอมจ่ายเงิน

หลังเกิดเหตุ น.ส.อนุสรา มาทราบภายหลังว่า น.ส.ภรณ์ชนก มีพฤติกรรมหลายอย่างที่น่าสงสัย โดยทราบมาว่าเดิมที น.ส.ภรณ์ชนก เป็นเพียงลูกจ้างช่วยขายของในตลาดเดียวกันนี้ ก่อนจะแอบมาเปิดร้านของตัวเองแข่งกับนายจ้างเก่า และยังพยายามชักชวนลูกจ้างคนอื่นๆ ของนายจ้างเก่าให้ย้ายไปทำงานกับตนเอง น.ส.อนุสรา จึงเชื่อว่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้นกับตนนั้น เป็นการเจตนาหลอกให้ลงทุนทำขนมไปขายฟรีๆ

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายอารีฟ (สงวนนามสกุล) หุ้นส่วนเจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยวไก่และอาหารอีสาน ซึ่งเป็นอดีตนายจ้างของ น.ส.ภรณ์ชนก นายอารีฟ เผยว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องที่ น.ส.ภรณ์ชนก ไปหลอกสั่งทำขนมมาขาย เพราะตนเองก็เพิ่งรับ น.ส.ภรณ์ชนก เข้ามาทำงานได้ไม่ถึงเดือน ด้วยค่าแรงวันละ 400 บาท ที่ผ่านมาก็เคยสงสัยในพฤติกรรมบางอย่าง เช่น ยอดขายกับวัตถุดิบไม่ตรงกัน เงินขายของไม่โอนเข้าบัญชีร้าน แต่ยังไม่ได้ตรวจสอบจริงจัง จนกระทั่งมาทราบเรื่องที่แม่ค้าขนมไทยถูกหลอก จึงได้ตรวจสอบย้อนหลังและพบความผิดปกติหลายอย่าง

นายอารีฟ กล่าวด้วยความคับแค้นใจที่สุดคือเรื่องที่ น.ส.ภรณ์ชนก หายตัวไปจากร้านที่ตนจ้างไว้ และกลับมาเปิดร้านขายอาหารประเภทเดียวกับร้านตนทั้งสองอย่าง คือก๋วยเตี๋ยวไก่และอาหารอีสาน ในตลาดเดียวกัน ซึ่งตนเพิ่งมาเห็นเมื่อร้านของ น.ส.ภรณ์ชนก ถูกจัดให้อยู่ในล็อกที่หันหน้ามาเจอร้านตนพอดี ทำให้เชื่อสนิทใจว่า การที่ น.ส.ภรณ์ชนก แฝงตัวเข้ามาทำงานเป็นลูกจ้างที่ร้านตนนั้น มีเจตนาเพื่อลอกสูตรอาหารของร้านตนไปทำขายแข่ง ถือเป็นเรื่องที่แย่ที่สุดเท่าที่เคยเจอมากับการจ้างลูกจ้าง

นายอารีฟ ยอมรับว่า รับ น.ส.ภรณ์ชนก เข้าทำงานจากเฟซบุ๊กด้วยความไว้ใจ ไม่ได้มีการหักเงินประกันความเสียหายใดๆ และไม่คิดว่าจะถูกทำแบบนี้ หลังจากนี้จะเร่งตรวจสอบบัญชีรายรับ-รายจ่ายของร้านในช่วงที่ น.ส.ภรณ์ชนก เข้ามาทำงาน หากพบความเสียหายใดๆ ที่เกิดจากการกระทำของ น.ส.ภรณ์ชนก จะแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมอย่างแน่นอน พร้อมยืนยันว่า ทางร้านของตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นจาก น.ส.ภรณ์ชนก อีกต่อไปแล้ว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *