รมช.คลัง “จุลพันธ์” พร้อมแจง กมธ.วุฒิสภา ปมเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ย้ำเศรษฐกิจต้องการตัวขับเคลื่อนใหม่ ชี้ปมประชามติต้องดูตามกฎหมาย
กรุงเทพฯ – เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ที่ท้องสนามหลวง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ของวุฒิสภา เตรียมเชิญนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเข้าชี้แจงทำความเข้าใจในประเด็นดังกล่าว
นายจุลพันธ์กล่าวแสดงความพร้อมในการเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯ หากได้รับการเชิญอย่างเป็นทางการ โดยระบุว่า ไม่มีปัญหาอยู่แล้วในการชี้แจงทำความเข้าใจ และได้ฝากไปยังคณะกรรมาธิการฯ ว่า อยากให้เปิดใจรับฟัง อย่าตั้งธงไว้ก่อน ในการพิจารณาประเด็นนี้
รมช.คลัง ย้ำถึงความเชื่อมั่นของรัฐบาลในโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยชี้ให้เห็นสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบันว่า ยังขาดตัวขับเคลื่อนใหม่ๆ ที่สามารถเข้ามาช่วยพยุงสภาวะทางเศรษฐกิจที่จะเกิดความผันผวนขึ้นในอนาคตได้ ซึ่งขณะนี้ยังคงพึ่งพาแต่ตัวขับเคลื่อนแบบเก่าๆ อยู่
นายจุลพันธ์กล่าวเสริมว่า โครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์นี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ ที่มีเม็ดเงินลงทุนต่อจุดเป็นแสนล้านบาท และจะสามารถเข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาวได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ถึงศักยภาพของโครงการนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีที่มีข้อเสนอให้มีการทำประชามติในเรื่องการจัดตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ นายจุลพันธ์กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย และต้องดูว่าช่องทางกฎหมายสำหรับการทำประชามติในประเด็นนี้เป็นอย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องมานั่งพูดคุยกันอย่างจริงจัง ไม่ใช่เป็นการพูดกันลอยๆ แล้วจะเกิดขึ้นได้
ท่านรมช.คลัง ย้ำว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่รัฐบาลดำเนินการ ตั้งแต่การร่างกฎหมาย หรือการนำเสนอกฎหมายเข้าสู่สภา ล้วนเป็นไปตามกรอบของรัฐธรรมนูญ และตนเองก็ไม่สามารถทำอะไรที่นอกเหนือจากนี้ได้
สำหรับกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า เรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ควรมีการทำประชามตินั้น นายจุลพันธ์กล่าวว่า คงต้องพูดคุยกัน เพราะเป็นเรื่องใหม่ ตนเองเพิ่งเห็นจากข่าว และยังไม่แน่ใจว่านายอนุทินให้สัมภาษณ์ในบริบทใด เนื่องจากในการพูดคุยกันในระดับรัฐมนตรี ยังไม่เคยมีการหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพิจารณาอย่างเป็นทางการ จึงยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน ต้องรอดูความชัดเจน หากมีประเด็นใดๆ ที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องมานั่งหารือและทำความเข้าใจร่วมกันต่อไป