น.ส.เจนจิรา รัตนเพียร โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกโรงตอบโต้ทันควัน กรณี นายนิติพล ผิวเหมาะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวพาดพิงการทำงานของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุว่าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ที่ขาดข้อเท็จจริง และสะท้อนพฤติกรรมทางการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์

เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 น.ส.เจนจิรา รัตนเพียร โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายนิติพล ผิวเหมาะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้แสดงความเห็นในเชิงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ว่าเป็นการกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง และใช้ถ้อยคำที่สร้างความเข้าใจผิด โดยเฉพาะคำว่า “รัฐมนตรีที่โลกลืม” ซึ่ง น.ส.เจนจิรา ระบุว่าเป็นคำพูดที่ไม่มีน้ำหนัก เพราะมาจากบุคคลที่เคยมีประวัติใช้ข้อมูลภาพลักษณ์ที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงมาโจมตีประเทศตัวเอง เช่น กรณีภาพลิงเก็บมะพร้าวในต่างประเทศ

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังอ้างอิงผลสำรวจจากนิด้าโพลที่ระบุว่า นายเฉลิมชัย เป็นรัฐมนตรีที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่าไม่ควรปรับเปลี่ยนตำแหน่ง หรือมีคะแนนให้ปรับน้อยมาก เพื่อยืนยันว่าการทำงานของนายเฉลิมชัยได้รับการยอมรับในระดับหนึ่ง

น.ส.เจนจิรา กล่าวยืนยันว่า นายเฉลิมชัย ปฏิบัติหน้าที่ทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา รวมถึงการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญต่างๆ อย่างครบถ้วนและเต็มที่ พร้อมตั้งคำถามกลับไปยัง นายนิติพล ว่าได้ติดตามการประชุมและงานในสภาฯ อย่างใกล้ชิดหรือไม่ โดยเน้นย้ำว่า “การไม่ออกข่าว ไม่ได้แปลว่าไม่ทำงาน และการทำงานที่แท้จริง ไม่จำเป็นต้องออกมาโฆษณาตัวเองทุกวัน สิ่งที่ควรดูคือ ผลลัพธ์ ไม่ใช่ดูแค่โพสต์หรือวาทกรรม”

น.ส.เจนจิรา ยังได้ยกตัวอย่างผลงานและภารกิจที่ นายเฉลิมชัย ได้ดำเนินการ อาทิ การร่วมคณะนายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนประเทศกัมพูชา เพื่อลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมข้ามแดน รวมถึงการให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์ฟ้าใสในการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนกับกลุ่มประเทศอาเซียน และความสำเร็จในการเจรจาบนเวที COP29 ที่ประเทศอาเซอร์ไบจาน

ในประเด็นปัญหาช้างป่า น.ส.เจนจิรา ระบุว่าสถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการขับเคลื่อนนโยบายที่เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน และการทำงานอย่างใกล้ชิดกับคณะกรรมาธิการวิสามัญในสภาฯ พร้อมแนะนำให้ นายนิติพล ลองสอบถามข้อมูลจากสมาชิกพรรคประชาชนที่อยู่ใน กมธ. ชุดดังกล่าว เพื่อให้ทราบถึงความคืบหน้าของงานแก้ปัญหาช้างป่า

นอกจากนี้ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการนำระบบ E-Ticket มาใช้ในการเก็บเงินรายได้อุทยานแห่งชาติ ซึ่งดำเนินการร่วมกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยตั้งเป้าให้แล้วเสร็จสำหรับ 10 อันดับแรกของอุทยานที่มีรายได้สูงสุดภายในฤดูการท่องเที่ยวหน้า และจะขยายผลไปยังอุทยานที่เหลือเกือบ 150 แห่งให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปี

น.ส.เจนจิรา กล่าวปิดท้ายอย่างดุดันว่า “ประชาธิปัตย์ไม่เคยกลัว ไม่เคยหวั่นไหวกับการตรวจสอบใดๆ ขอเป็นเพียงการตรวจสอบ กล่าวหากันบนข้อเท็จจริง ไม่ใช่การกุเรื่อง กล่าวหากันพล่อยๆ พลอยแต่โหนกระแส ไม่สมเกียรติ สมคุณวุฒิ ของความเป็นผู้แทนราษฎรเอาเสียเลย ทำให้นึกถึงคำที่ผู้ใหญ่เคยสอนว่า ‘สำเนียงส่อภาษากิริยาส่อสกุล’ น่าเห็นใจพรรคที่สังกัดจริงๆ คงจะต้องผิดหวัง ที่มี สส.ออกมาแสดงอะไรที่ไม่สร้างสรรค์เช่นนี้”