กลาโหม จับมือ จุฬาฯ ครั้งประวัติศาสตร์! ปั้นทหารเกณฑ์ ‘ติดอาวุธ’ วิชาการ-ทักษะชีวิต สู่โอกาสหลังปลดประจำการ

กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางเข้าพบ ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อหารือและเดินหน้าเตรียมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MoU) ระหว่างสองหน่วยงานภาครัฐครั้งสำคัญ

ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวใหม่ที่น่าจับตา เนื่องจากเป็นการจัดทำ MoU ในระดับ “กระทรวง” อย่างเป็นทางการ ซึ่งแตกต่างจากการร่วมมือในอดีตที่มักเกิดขึ้นในระดับหน่วยงานย่อยๆ ของกระทรวงกลาโหมเท่านั้น โดยบันทึกความเข้าใจฉบับนี้จะมีปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ลงนามร่วมกับอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจะครอบคลุมทุกหน่วยขึ้นตรง รวมถึงเหล่าทัพต่างๆ เพื่อเป็นกรอบในการพัฒนาศักยภาพกำลังพลในภาพรวม

เป้าหมายหลักของ MoU ฉบับนี้ คือการยกระดับความรู้และทักษะที่จำเป็นให้กับกำลังพล โดยเฉพาะ ทหารชั้นผู้น้อยและทหารเกณฑ์ ให้สามารถก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจจุบัน พร้อมรับมือกับภัยความมั่นคงในรูปแบบใหม่ๆ ที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้ทหารหาญของชาติไม่เพียงแต่แข็งแกร่งทางด้านการทหาร แต่ยังมีภูมิคุ้มกันทางด้านวิชาการและทักษะชีวิตด้วย

รายละเอียดของความร่วมมือจะเน้นการพัฒนาหลักสูตรและกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย มุ่งเสริมทักษะที่ตลาดแรงงานต้องการและเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิต ทั้งในระหว่างประจำการและหลังปลดประจำการ โดยเบื้องต้น มีการหารือถึงหลักสูตรความรู้พื้นฐานที่สำคัญ อาทิ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในทุกอาชีพยุคนี้ รวมถึงความรู้ด้านการเงินการบัญชีเบื้องต้น ซึ่งจะช่วยให้กำลังพลบริหารจัดการชีวิตและอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะพัฒนาหลักสูตรทักษะอาชีพอื่นๆ ที่สามารถนำไปต่อยอดประกอบอาชีพได้จริง

แนวคิดสำคัญอีกประการที่ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือคือ “Credit Bank” หรือระบบสะสมหน่วยกิตสำหรับทหารเกณฑ์ แนวคิดนี้เปิดโอกาสให้ทหารเกณฑ์สามารถใช้ระยะเวลา 1-2 ปี ในการรับราชการทหาร เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ และสะสมหน่วยกิตไว้ เมื่อปลดประจำการแล้ว หน่วยกิตเหล่านี้จะสามารถนำไปเทียบโอนกับสถาบันอุดมศึกษาที่ร่วมโครงการได้ ซึ่งจะเป็นการลดระยะเวลาในการศึกษาต่อ ทำให้ทหารเกณฑ์มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาในระดับที่สูงขึ้นและต่อยอดอนาคตได้อย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ความร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์สำคัญของกระทรวงกลาโหม ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านระบบการเกณฑ์ทหารไปสู่ระบบสมัครใจอย่างเต็มรูปแบบ การสร้างช่องทางการเสริมทักษะอาชีพ และการเปิดโอกาสด้านการศึกษาและทักษะชีวิตให้กับทหารชั้นผู้น้อยและทหารเกณฑ์อย่างเป็นรูปธรรม จะเป็นปัจจัยสำคัญในการ จูงใจให้คนรุ่นใหม่มองการเป็นทหารเป็น “โอกาส” ในการพัฒนาตนเองและสร้างอนาคต ไม่ใช่ “อุปสรรคของชีวิต”

ขณะนี้ ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดทำรายละเอียดในบันทึกความร่วมมือให้ครบถ้วนสมบูรณ์ โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จและพร้อมสำหรับการลงนามอย่างเป็นทางการได้ภายในเดือนมิถุนายน ปี 2568 ซึ่งจะเป็นหมุดหมายสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตและศักยภาพของกำลังพลของกองทัพไทย.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *