ภัยเงียบในครัว! เช็กด่วน 6 แก้วน้ำอันตราย ใส่น้ำร้อนอาจปล่อยสารพิษ เสี่ยงโรคร้ายในอนาคต
ภัยเงียบในครัว! เช็กด่วน 6 แก้วน้ำอันตราย ใส่น้ำร้อนอาจปล่อยสารพิษ เสี่ยงโรคร้ายในอนาคต
รายงานจากสื่อต่างประเทศฉบับหนึ่ง ได้ออกมาเตือนประชาชนทั่วโลกให้เร่งตรวจสอบและระมัดระวังการใช้แก้วน้ำบางประเภทในครัวเรือน ซึ่งอาจกลายเป็น ‘ภัยเงียบ’ ที่มองไม่เห็น แต่สามารถปล่อยสารพิษร้ายแรงเมื่อสัมผัสกับความร้อน โดยเฉพาะน้ำร้อน ซึ่งสารพิษเหล่านี้อาจสะสมในร่างกายเป็นเวลานาน และนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรง หรือโรคร้ายต่างๆ ในอนาคต
การเตือนภัยครั้งนี้ชี้เป้าไปที่แก้วน้ำ 6 ประเภทหลักๆ ที่ควรหลีกเลี่ยงหรือพิจารณากำจัดทิ้ง หากยังคงใช้งานอยู่ โดยเฉพาะเมื่อต้องใส่น้ำร้อน ประกอบด้วย:
1. แก้วเคลือบที่มีรอยลอกหลุดร่อน
เมื่อชั้นเคลือบผิวแก้วมีรอยแตก ลอก หรือหลุดร่อน ส่วนของโลหะที่อยู่ด้านในจะสัมผัสกับอากาศและความชื้น ทำให้เกิดการเกิดสนิม หรือหากเป็นวัสดุเคลือบคุณภาพต่ำ ก็อาจมีส่วนประกอบของโลหะหนักที่อันตราย เมื่อใช้ไปนานๆ หรือมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ สารพิษเหล่านี้อาจปนเปื้อนลงในเครื่องดื่ม ซึ่งส่งผลเสียอย่างมากต่อระบบประสาทและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
2. แก้วใสที่มีส่วนผสมของตะกั่ว
แก้วใสบางชนิด โดยเฉพาะแก้วคริสตัลที่นิยมใช้เพื่อความสวยงาม อาจมีส่วนผสมของตะกั่วเพื่อเพิ่มความแวววาวและน้ำหนัก ตะกั่วเป็นโลหะหนักที่เป็นพิษร้ายแรง หากร่างกายดูดซึมเข้าไปสะสมเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในเด็ก จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อพัฒนาการทางสติปัญญาและระบบประสาท ดังนั้น หากต้องการใช้แก้วใส ควรเลือกชนิดที่ระบุชัดเจนว่า “ปราศจากตะกั่ว” (Lead-Free)
3. แก้วเกลเชียร์ (Glacier) หลากสี
แก้วที่มีสีสันสวยงามราวกับน้ำแข็งเกลเชียร์ เป็นที่นิยมเพราะความดึงดูดทางสายตา แต่สีที่ใช้มักเกิดจากการชุบ หรือพ่นสี ซึ่งอาจมีส่วนประกอบของสารเคมีและโลหะหนักที่เกินมาตรฐานความปลอดภัย หากวัสดุสีที่ใช้คุณภาพต่ำ หรือกระบวนการผลิตไม่ได้มาตรฐาน สารพิษเหล่านี้อาจละลายออกมาปนกับเครื่องดื่ม โดยมีความเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายต่อตับ ไต และระบบประสาทส่วนกลาง ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ มีฉลากชัดเจน และผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน
4. แก้วพลาสติกชนิด PC
แก้วพลาสติกชนิดนี้พบเห็นได้ทั่วไป แต่โดยส่วนใหญ่แล้วถูกออกแบบมาเพื่อบรรจุน้ำเย็นเท่านั้น เมื่อเทน้ำร้อนลงไป พลาสติกชนิด PC อาจปล่อยสารบิสฟีนอล เอ (Bisphenol A หรือ BPA) ซึ่งเป็นสารที่อาจรบกวนการทำงานของฮอร์โมน ส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันและระบบประสาท และมีงานวิจัยบางส่วนที่บ่งชี้ว่าอาจกระตุ้นการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้ หากจำเป็นต้องใช้แก้วพลาสติก ให้เลือกชนิดที่มีสัญลักษณ์หมายเลข 5 หรืออักษร PP (Polypropylene) ที่ก้นแก้ว ซึ่งพลาสติกชนิดนี้สามารถทนความร้อนได้สูงถึง 120 องศาเซลเซียส และปลอดภัยกว่าสำหรับการใช้น้ำร้อน
5. แก้วสแตนเลสที่ไม่ได้มาตรฐาน
แก้วเก็บความร้อนที่ทำจากสแตนเลสคุณภาพต่ำ หรือไม่ได้มาตรฐาน อาจมีส่วนประกอบของโลหะหนัก เช่น โครเมียม ในปริมาณที่สูงกว่าเกณฑ์ปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสกับเครื่องดื่มที่มีอุณหภูมิสูง หรือมีความเป็นกรด หากมีการปลดปล่อยและสะสมในร่างกายเป็นเวลานาน จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง ควรเลือกแก้วสแตนเลสที่ระบุเกรดสแตนเลสชัดเจน โดยเกรด 304 หรือ 316 เป็นเกรดที่นิยมและปลอดภัยสำหรับใช้กับอาหารและเครื่องดื่ม มีความทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดี ส่วนเกรด 201 ไม่ทนทานต่อกรด-ด่าง ไม่แนะนำให้ใช้
6. แก้วเซรามิกที่มีลวดลายวาดบนผิวเคลือบ
แก้วเซรามิกโดยทั่วไปถือเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัย แต่สำหรับแก้วเซรามิกที่มีการวาดลวดลายสีสันอยู่บนชั้นเคลือบผิว หรือใช้สีคุณภาพต่ำที่ไม่ผ่านการเผาที่อุณหภูมิเหมาะสม สารสีเหล่านั้นอาจมีส่วนประกอบของโลหะหนักในปริมาณสูง และพร้อมที่จะละลายออกมาเมื่อสัมผัสกับน้ำร้อน ความเสี่ยงนี้จะสูงขึ้นหากใช้แก้วที่มีรอยแตก หรือรอยขีดข่วนบนลวดลาย ควรเลือกแก้วเซรามิกแบบเรียบๆ หรือมีลวดลายที่อยู่ใต้ชั้นเคลือบ (underglaze)
3 ข้อควรระวังในการใช้แก้วน้ำอย่างปลอดภัยและถูกต้อง
นอกจากการเลือกประเภทแก้วที่เหมาะสมแล้ว การใช้งานอย่างถูกต้องก็สำคัญไม่แพ้กัน:
1. ไม่ควรใช้แก้วเก็บความร้อนชงชา
แม้แก้วเก็บความร้อนจะสะดวก แต่ไม่เหมาะกับการชงชาโดยตรง เพราะอุณหภูมิคงที่สูงเป็นเวลานาน จะทำให้สารแทนนิน คาเฟอีน และน้ำมันหอมระเหยในชาละลายออกมามากเกินไป ทำให้ชามีรสขมและเสียรสชาติที่แท้จริง
2. แก้วเซรามิกเหมาะที่สุดสำหรับชงชา
แก้วเซรามิกมีคุณสมบัตินำความร้อนช้า รักษาอุณหภูมิได้ดีในระดับหนึ่ง และไม่ทำปฏิกิริยาทางเคมีกับชา ทำให้สามารถชงชาได้รสชาติที่ดีที่สุด และยังปลอดภัยต่อการใช้งาน
3. แก้วใสเหมาะสำหรับใส่น้ำผลไม้
น้ำผลไม้ส่วนใหญ่มีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งอาจทำปฏิกิริยากับวัสดุบางประเภท แต่แก้วใสโดยเฉพาะชนิดที่ปราศจากตะกั่ว เป็นวัสดุที่เฉื่อย ไม่ทำปฏิกิริยากับกรด และยังช่วยให้น้ำผลไม้เย็นเร็ว เหมาะสำหรับการดื่มเพื่อความสดชื่น
ภัยเงียบเหล่านี้อาจอยู่ในครัวเรือนของเราโดยไม่รู้ตัว การสละเวลาตรวจสอบแก้วน้ำที่ใช้งานอยู่ และเลือกใช้ให้ถูกต้องตามประเภท จะช่วยลดความเสี่ยงในการได้รับสารพิษสะสมในร่างกาย ปกป้องสุขภาพของตัวเราเองและคนที่คุณรักในระยะยาว
ที่มา : Soha