นครราชสีมา – เกิดเหตุการณ์ระทึกภายในวัดหนองซำ อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อชายวัยกลางคนซึ่งอยู่ในอาการคล้ายคนคุ้มคลั่ง บุกเข้ามาภายในวัด พร้อมอาวุธมีด ข่มขู่จะทำร้ายเจ้าอาวาส ก่อนจะแสดงความไม่พอใจด้วยการใช้มีดฟันทำลายรูปปั้นศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเคารพนับถือ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างไม่พอใจอย่างมาก และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว ก่อนที่ชาวบ้านจะรวมตัวกันออกติดตามและอาจเกิดเหตุการณ์ประชาทัณฑ์ขึ้น

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยมีคลิปวิดีโอที่ชาวบ้านถ่ายไว้ได้ แสดงให้เห็นภาพของชายคนดังกล่าว ซึ่งส่งเสียงโวยวายและถือมีดเดินไปมาภายในบริเวณวัดหนองซำ โดยมีพระลูกวัดและผู้นำชุมชนพยายามเกลี้ยกล่อมและผลักดันให้ออกไปจากพื้นที่วัด

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้พูดคุยกับ พระพูนสมบัติ สุปัญโญ พระลูกวัดหนองซำ ซึ่งเปิดเผยว่า ชายผู้ก่อเหตุได้บุกเข้ามาในวัดและตรงไปยังบริเวณกุฏิของ พระครูเมตตาสารคุณ ซึ่งเป็นทั้งรองเจ้าคณะอำเภอห้วยแถลง และเจ้าอาวาสวัดหนองซำ โดยมีเจตนาจะเข้าทำร้ายและข่มขู่ อ้างว่าเจ้าอาวาสเป็นต้นเหตุทำให้ครอบครัวของตนแตกแยก

เมื่อไม่สามารถเข้าไปในกุฏิเจ้าอาวาสได้สำเร็จ ชายคนดังกล่าวได้แสดงความโกรธแค้นด้วยการใช้มีดแบบตะขอที่พกติดตัวมา ฟันเข้าที่บริเวณคอของรูปปั้นเหมือนย่าโม ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้ากุฏิ ทำให้รูปปั้นได้รับความเสียหายอย่างหนัก ไม่เพียงเท่านั้น ก่อนที่จะหลบหนีไป ยังได้ก่อเหตุทำลายรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกองค์ คือรูปปั้นปู่ตาในศาลปู่ตาเจ้าบ้าน โดยใช้มีดฟันที่คอและผลักล้มลงจนคอขาด

ข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ระบุว่า ชายผู้ก่อเหตุเป็นชาวอำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ และเคยมาที่วัดหนองซำอยู่บ่อยครั้ง เพื่อขอข้าวขอน้ำจากทางวัด โดยเจ้าอาวาสเคยให้ความเมตตาช่วยเหลือ แต่พักหลังชายคนดังกล่าวมีพฤติกรรมเสพติดยาบ้าอย่างหนัก ทำให้เจ้าอาวาสไม่ได้ให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความไม่พอใจ

หลังเกิดเหตุการณ์ ผู้นำท้องที่ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยแถลง เพื่อให้เร่งติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะเดียวกัน ทางวัดและชาวบ้านได้ร่วมกันจัดเวรยามผลัดละ 10 คน เพื่อเฝ้าระวังดูแลความปลอดภัยให้กับเจ้าอาวาสและทรัพย์สินภายในวัดอย่างเข้มงวด ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยความกังวลว่าผู้ก่อเหตุอาจจะย้อนกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก

ในอีกด้านหนึ่ง ความโกรธแค้นของชาวบ้านในหมู่บ้านที่มีต่อผู้ก่อเหตุมีอย่างมาก ชาวบ้านจำนวนไม่น้อยได้รวมตัวกันและออกติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุตามเบาะแสที่ได้รับ เนื่องจากไม่พอใจอย่างยิ่งที่ชายคนดังกล่าวเข้ามากระทำกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านในพื้นที่ให้ความเคารพสักการะบูชา ทั้งองค์แม่ย่าโม และปู่ตาเจ้าบ้าน ทำให้เกิดความกังวลว่า หากชาวบ้านพบตัวผู้ก่อเหตุก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมตัวได้ อาจจะเกิดเหตุการณ์รุมประชาทัณฑ์ขึ้น เนื่องจากชายคนดังกล่าวถูกมองว่าเป็นบุคคลอันตรายและได้ทำลายขวัญกำลังใจของชาวบ้านจากการกระทำต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่หมู่บ้าน