กรุงเทพฯ – เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ประกาศแผนยุทธศาสตร์และโรดแมพครั้งสำคัญ สู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 โดยเน้นการขับเคลื่อนร่วมกับคู่ค้าตลอดห่วงโซ่อุปทาน ถือเป็นการยกระดับความร่วมมือภาคธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

นายธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยในงาน Decarbonize Thailand Symposium 2025 ว่า เครือซีพีได้วางกรอบยุทธศาสตร์ความยั่งยืน “Heart-Health-Home” ที่ครอบคลุม 3 เสาหลัก ได้แก่ การบรรลุ Net Zero ภายในปี 2050, การขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน และการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับประชาชนกว่า 50 ล้านคน

พร้อมกันนี้ เครือซีพีได้ประกาศเป้าหมายระยะใกล้ (Near-term SBT 2030) ที่ชัดเจน โดยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 1 และ 2 ลง 42% และลด Scope 3 ลง 25% ภายในปี 2030 เมื่อเทียบกับปีฐาน

แนวทางสำคัญในการขับเคลื่อนสู่เป้าหมายดังกล่าว ประกอบด้วย การเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนให้ได้ 50% ผ่านการติดตั้ง Solar PV รวม 3 กิกะวัตต์ รวมถึงการใช้ไบโอแมสและไบโอแก๊ส ควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน 20% และการเลิกใช้ถ่านหินโดยสิ้นเชิง นอกจากนี้ ยังมุ่งสู่การจัดการของเสียเป็นศูนย์ (Zero Waste)

สำหรับความท้าทายหลักอย่าง Scope 3 ซึ่งเป็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมที่เกิดจากกิจกรรมตลอดห่วงโซ่คุณค่า เครือซีพีจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับคู่ค้า โดยมีแนวทางต่างๆ เช่น การส่งเสริมการติดตั้ง Solar PPA ในกลุ่มคู่ค้า การสนับสนุนเกษตรกรรมคาร์บอนต่ำในพื้นที่กว่า 3.5 ล้านไร่ และการเร่งเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ขนส่งพลังงานสะอาด เช่น รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถไฮโดรเจน

“การลดคาร์บอนไม่ใช่เรื่องที่องค์กรใดจะทำสำเร็จได้เพียงลำพัง” นายธีระพล กล่าวย้ำ “เราต้องร่วมมือกับคู่ค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดในระบบ เครือซีพีได้วางแนวทางบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างรับผิดชอบ โดยยึด 3 แกนหลัก คือ Responsible Supply Chain Management, Supply Chain Decarbonization และ Human Rights เพื่อสร้างความยั่งยืนในระยะยาว”

ด้าน นางศิริพร เดชสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ซีพี แอ็กซ์ตร้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครือซีพี ได้ผนึกกำลังกับคู่ค้าและผู้มีส่วนร่วมกว่า 300 ราย เพื่อขับเคลื่อนองค์กรและห่วงโซ่อุปทานสู่ Net Zero โดยตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวม Scope 1, 2, และ 3 ให้ได้ 4.18 ล้านตันภายในปี 2030

ความร่วมมือกับคู่ค้าใน Scope 3 เป็นหัวใจสำคัญ ซีพี แอ็กซ์ตร้า มี 4 แนวทางสนับสนุนที่สำคัญ ได้แก่ การใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อรวบรวมและวัดข้อมูลคาร์บอนจากคู่ค้า การจัดอบรมและเวิร์กช็อปเพื่อให้ความรู้ การเชิญชวนคู่ค้าเข้าร่วมโครงการด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ และการผลักดันให้คู่ค้าเข้าสู่การเป็น Green Supplier เพื่อให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนสีเขียวจากธนาคารพันธมิตรได้ง่ายขึ้น

ในงานเดียวกันนี้ ผู้แทนจากคู่ค้าอย่าง นางสาวศิริอนงค์ ชื่นชวลิต จาก บริษัท ยูนิลีเวอร์ กล่าวถึงความจำเป็นที่องค์กรต้องขับเคลื่อนเป้าหมาย Net Zero ร่วมกับพันธมิตรในห่วงโซ่อุปทาน และชื่นชม ซีพี แอ็กซ์ตร้า ว่าเป็นตัวอย่างที่ดีในการผลักดันความยั่งยืนผ่านธุรกิจค้าปลีก และสร้างแรงจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ ขณะที่ นางสาวภาสินี ตั้งสุริยาไพศาล ซีอีโอ บริษัท เอ็นเนเบิล เอิร์ธ จำกัด บริษัทสตาร์ทอัพด้านสิ่งแวดล้อม ได้นำเสนอโซลูชันการเปลี่ยนซังข้าวโพดเป็นไบโอชาและคาร์บอนเครดิต ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดปัญหาการเผาในที่โล่งและสนับสนุนธุรกิจไทยให้พร้อมรับมือมาตรการ CBAM ของสหภาพยุโรป

งาน Decarbonize Thailand Symposium 2025 ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดย ทรู ดิจิทัล พาร์ค และ นิวเอนเนอร์จี้ เน็กซัส (ประเทศไทย) ถือเป็นเวทีสำคัญที่รวบรวมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ทั้งองค์กรขนาดใหญ่ สตาร์ทอัพ และหน่วยงานต่างๆ เพื่อแบ่งปัน Use Case ที่ใช้ได้จริงใน 5 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ ยานยนต์ไฟฟ้า พลังงาน เทคโนโลยีการเกษตร อาคารสีเขียว และการเงินเพื่อสภาพภูมิอากาศ สะท้อนให้เห็นถึงความเร่งด่วนและความร่วมมือที่จำเป็น เพื่อนำประเทศไทยไปสู่อนาคตคาร์บอนต่ำอย่างแท้จริง